ชินวะ เรียล เอสเตท (ไทยแลนด์)  ปรับแผนธุรกิจ  พลิกกลยุทธ์เจาะตลาดบ้านระดับไฮเอนด์  นำร่องเปิดตัว “เมอิ อเวนิว ศรีนครินทร์  (ME~I Avenue Srinakarin)”  บ้านหรูสไตล์ Japanese Modern เจาะเศรษฐีกลุ่มนิชมาร์เก็ตระดับไฮเอนด์ เคาะราคาเริ่มต้น 39.8 ล้านบาท  เผยหากประสบความสำเร็จ จะต่อยอดโมเดลธุรกิจนี้ต่อเนื่อง

นายวิชัย จุฬาโอฬารกุล กรรมการบริหารบริษัท ชินวะ เรียล เอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด ในเครือชินวะ กรุ๊ป กล่าวว่า ชินวะ กรุ๊ป ญี่ปุ่น กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เริ่มต้นเข้ามาลงทุนในประเทศไทยในปี 2560 ในรูปแบบการร่วมทุน ภายใต้ บริษัท ชินวะ เรียล เอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด เริ่มจากการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม รูเนะสุ ทองหล่อ 5 จำนวน 156 นูนิต มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันการก่อสร้างแล้วเสร็จและมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดส่วนใหญ่ให้ลูกค้าแล้ว แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีลูกค้าชาวจีนกลุ่มหนึ่งซึ่งจองห้องชุดและจ่ายค่ามัดจำแล้วแต่ไม่สามารถเดินทางมาโอนกรรมสิทธิ์ได้ คิดเป็นประมาณ 30% ของจำนวนห้องชุดทั้งหมด หรือเป็นมูลค่าประมาณ 250 ล้านบาท ซึ่งภายในสิ้นปีนี้ หากยังไม่สามารถติดต่อลูกค้าชาวจีนกลุ่มนี้ได้ บริษัทจะนำห้องชุดดังกล่าวกลับมาขายใหม่ ในราคาเดิมหลังเปิดพรีเซล หรือประมาณ 240,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งคาดว่าสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ภายในกลางปี 2566

ทั้งนี้ เดิมการเข้ามาลงทุนของ ชินวะ กรุ๊ป ซึ่งมีความชำนาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมในญี่ปุ่น ได้มีนโยบายให้ บริษัท ชินวะ เรียล เอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในไทยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ภาพโดยรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ต้องเผชิญกับวิกฤติต่างๆ หลายด้าน ทั้งจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกประเทศ ซึ่งแม้ว่าประเทศไทยจะเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวตามการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้น แต่วิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันได้ส่งผลกระทบต่อรายได้และการจ้างงานที่ลดลง ประกอบกับยังเผชิญกับผลกระทบที่เกี่ยวเนื่องจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ลามไปถึงมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของชาติตะวันตกที่มีต่อรัสเซียนั้นกำลังส่งผลต่อราคาสินค้าและบริการรวมถึงต้นทุนด้านพลังงานที่ขยับเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนั้นตลาดคอนโดมิเนียมไทยยังมีจำนวนหน่วยเหลือขายในตลาดเป็นจำนวนมาก ทางบริษัทจึงมีการปรับแผนหันมาเจาะตลาดบ้านไฮเอนด์ โดยล่าสุดนำร่องพัฒนา โครงการ “เมอิ อเวนิว ศรีนครินทร์ (ME~I Avenue Srinakarin)” บ้านหรูสไตล์ Japanese Modern ชูจุดเด่น “อินโนเวชั่น” ผสานศาสตร์ “ฮวงจุ้ย” วิชาเต๋า-เหมาซานทุกหลัง เจาะเศรษฐีกลุ่มนิชมาร์เก็ตระดับไฮเอนด์ ในราคาเริ่มต้น 39.8 ล้านบาท

 “โครงการเมอิ อเวนิว ศรีนครินทร์ เป็นโครงการที่บริษัทชินวะฯ ลงทุนเองทั้งหมด 100%  ตั้งอยู่บนเนื้อที่เกือบ 1 ไร่ ติดห้างพาราไดซ์ ปาร์ค ซึ่งเดิมมีแผนจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมขนาด 100 ยูนิต เจาะกลุ่มวัยเพิ่งเริ่มทำงาน แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวยประกอบกับกลุ่มคนที่อยู่อาศัยในทำเลดังกล่าวฐานะดี มีรายได้สูง และมีทั้งกลุ่มเจ้าของธุรกิจที่แต่งงานแยกครอบครัวใหม่ แต่ต้องการอาศัยใกล้ครอบครัวเดิมหรือใกล้พ่อแม่ บริษัทชินวะฯ จึงได้ปรับแผนพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ จำนวน 5 หลัง ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 46.4-49.6 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 531-524 ตร.ม. 4-5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ จอดรถได้ 3 คัน ราคา 39.8-48.8 ล้านบาท มูลค่าการขาย 250 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะปิดการขายได้หมดภายในสิ้นปี 2565” นายวิชัย กล่าว

นายวิชัยกล่าวอีกว่าหากการพัฒนาโครงการเมอิ อเวนิว ศรีนครินทร์ ประสบความสำเร็จ โมเดลธุรกิจต่อไปของ บริษัทชินวะฯ จะเน้นการพัฒนาโครงการบ้านระดับไฮเอนด์ในพื้นที่รอบใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นย่านที่เป็นที่รู้จักของญี่ปุ่น เช่น สุขุมวิท และวิลล่าหรูตามหัวเมืองท่องเที่ยว อาทิ ศรีราชา จ.ชลบุรี เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา และภูเก็ต โดยปัจจุบันบริษัทมีที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการอยู่ 4-5 แปลง ทั้งนี้ ในปี 2566 บริษัทตั้งเป้าสร้างยอดขายและรายได้รวม 500 ล้านบาท