แกรนด์ ทรีนีตี้ เปิดตัวโครงการ วัน แอททีเลียร์ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ พหลโยธิน ลักซ์ชัวรี่ทาวน์โฮมและบ้านแฝด 4.5 ชั้น ในสไตล์ Modern Classic พร้อมเข้าอยู่ มูลค่าโครงการกว่า 410 ล้านบาท เผยกวาดยอดขายแล้ว 50% เตรียมปิดการขายกลางปี 66 แย้มแผนเตรียมปั้นโปรดักส์อสังหาฯ ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ พร้อมสร้างรายได้ประจำจากการรุกธุรกิจโรงแรมหรู คาดดันบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอีก 5-6 ปีข้างหน้า
นายดิษย์ฐา จิราศิริวรภัทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ ทรีนีตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า จากประสบการณ์การทำงานในแวดวงอสังหาริมทรัพย์มากว่า 10 ทำให้ตัดสินใจหันมาดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของตนเอง โดยจัดตั้งบริษัท แกรนด์ ทรีนีตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ขึ้นมาเพื่อพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยปัจจุบันดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาแล้ว 3 ปี และได้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ไปแล้ว 5 โครงการ มูลค่ารวม 1,500 ล้านบาท โดยจะทะยอรับรู้รายได้ในปีนี้ 400 ล้านบาท
“โครงการทั้งหมดภายใต้การพัฒนาของแกรนด์ ทรีนีตี้ มีรวม 5 โครงการ ภายใต้แบรนด์ “วัน แอททีเลียร์” 3 โครงการ ได้แก่ พหลโยธิน สตรีวิทยา และสุคนธสวัสดิ์ โครงการ “เกรทเทียร์ ทาวน์” ทาวน์โฮม 3 ชั้น 3-5 ห้องนอน สไตล์ New Modern English หนึ่งเดียวในย่านบางนา-เทพารักษ์ และ “ซิตี้ ไซท์ น่าน” บ้านเดี่ยวหรูสไตล์นอร์ดิกที่เตรียมปิดการขายในเฟสที่ 1 และเปิดการขายไปยังเฟสที่ 2” นายดิษย์ฐา กล่าว
ทั้งนี้ ล่าสุด แกรนด์ ทรีนีตี้ ได้เปิดตัวโครงการวัน แอททีเลียร์ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ พหลโยธิน ภายใต้แบรนด์ “One Atelier” (วัน แอททีเลียร์) รูปแบบทาวน์โฮมและบ้านแฝด 4.5 ชั้น บนที่ดิน 1-2-35 ไร่ ย่านซ.พหลโยธิน 34 จำนวน 13 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 410 ล้านบาท โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ Prestige Luxury คนรุ่นใหม่และนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเร็ว มีความต้องการใช้ชีวิตอย่างลงตัว สะดวกสบายและไม่เร่งรีบ รวมถึงมีเวลาได้พักผ่อน และผ่อนคลายจากการทำงาน ที่มองหา Convenient Location ให้กับครอบครัว มาพร้อมรูปแบบ Modern Classic Cluster House ที่สง่างามผสมผสานกลิ่นอายความร่วมสมัยอย่างลงตัว ภายใต้คอนเซปต์ “The Exquisite Living – รายละเอียดชีวิตที่งดงาม” อีกทั้งเน้นการออกแบบให้ทุกพื้นที่มีนวัตกรรมของการอยู่อาศัยที่ช่วยสร้างสมดุลการชีวิตใจกลางพหลโยธิน ในราคา 22-46 ล้านบาท โดยปัจจุบัน โครงการวัน แอททีเลียร์ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ พหลโยธิน มียอดขายแล้วกว่า 50% และบริษัทตั้งเป้าปิดการขายโครงการภายในไตรมาส 2 ปี 2566
นายดิษย์ฐา กล่าวอีกว่า แกรนด์ ทรีนีตี้ได้มีการวางเป้าธุรกิจในระยะสั้น โดยจะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอย่างน้อยปีละ 1-3 โครงการ การเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี โดยตั้งเป้าหมายรับรู้รายได้ 400 ล้านบาท ปี 2565 ตั้งเป้าหมายรับรู้รายได้ 500 ล้านบาท ในปี 2566 พร้อมสร้างจุดยืนของแกรนด์ ทรีนีตี้ ให้เป็นที่รู้จักของตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ ด้วยความโดดเด่นของโครงการ และวิสัยทัศน์ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่จะมอบสิ่งที่เหนือกว่า โดยจะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยครอบคลุมทุกเซกเมนต์ตั้งแต่ระดับอัลตราลักชัวรี่ ระดับลักชัวรี่ ระดับกลาง และในระดับราคาที่สามารถเข้าถึงได้ พร้อมวางเป้าหมายในอีก 5-6 ปีข้างหน้า บริษัทจะสามารถสร้างยอดขายได้แตะระดับ 1,000 ล้านบาท และแกรนด์ ทรีนีตี้ ยังมีแผนนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอีก 5-6 ปีข้างหน้าอีกด้วย
นายดิษย์ฐา กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับภาพรวมแผนดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการแนวราบบนพื้นที่กว่า 70 ไร่ ย่านบางนา-เทพารักษ์ ติดทะเลสาบขนาดใหญ่ 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบที่จังหวัดน่านเพิ่มอีก 1 โครงการ มูลค่าประมาณ 120 ล้าน โดยคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 3 ปีหน้า
ทั้งนี้ นอกเหนือจากการพัฒนาสินค้ากลุ่มที่อยู่อาศัยแล้ว บริษัทยังมีแผนสร้างรายได้ประจำในกลุ่มโรงแรมหรู โดยได้มีการนำร่องเทคโอเวอร์โรงแรมอุ่นไอมาง ย่านอำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่านและนำมารีโนเวทเป็น Luxury Boutique Hotel จำนวน 12 ห้อง อัตราค่าเช่าห้องพัก 6,000-18,000 บาทต่อคืน โดยจะเริ่มเปิดให้บริการในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ปัจจุบันมีการจองห้องพักยาวไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2566 แล้ว นอกจากนั้นบริษัทยังมีแผนรุกธุรกิจสร้างรายได้ประจำต่อเนื่อง ในรูปแบบ Luxury Boutique Hotel ทำเลหมู่บ้านสะปัน อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน บนเนื้อที่ 20 ไร่ และมีแผนที่จะรุกธุรกิจรูปแบบนี้ในเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ อาทิ ภูเก็ต อยุธยา พัทยา เชียงใหม่ โดยคาดว่าในอนาคตธุรกิจดังกล่าวจะสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทในสัดส่วน 40%ของรายได้รวม