“ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์” เครือพรีโมและออริจิ้น เร่งเดินหน้าธุรกิจบริหารงานโครงการและบริหารงานก่อสร้าง ตอกย้ำคุณภาพระดับมาตรฐานสากล ISO9001-2015 ครึ่งปีหลังบุกประมูลงานควบทำการตลาดกลุ่ม Non-residential projects หวังเพิ่มโอกาสเติบโตทั้งแนวลึกและแนวกว้าง คาดหลัง COVID-19 อสังหาฯ ฟื้นตัวแรง ภาครัฐติดเครื่องลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบสาธารณูปโภค หนุนโอกาสกลุ่มธุรกิจก่อสร้าง เตรียมนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กลางปี 2566 

ดร.อรุณ ศิริจานุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์ จำกัด หรือ UPM ผู้ให้บริการบริหารงานโครงการ และบริหารงานก่อสร้าง ภายใต้บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า หลังบริษัทได้ประกาศเปิดตัวดำเนินธุรกิจรับบริหารงานโครงการ (Project Management) และบริหารงานก่อสร้าง (Construction Management) สานต่อแนวคิด ORIGIN NEXT LEVEL สร้างการเติบโตในทุกมิติของเครือพรีโม และออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI เพื่อรองรับโอกาสการเติบโตของภาคการก่อสร้างทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ล่าสุด บริษัทได้รับความไว้วางใจให้บริหารงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการที่อยู่อาศัย และโรงแรมขนาดใหญ่ เพิ่มเติมอีก โครงการ 

ขณะเดียวกัน ตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ เป็นต้นมา บริษัทได้กระจายโอกาสสู่การเข้าร่วมประมูลงานออกแบบและควบคุมงานเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งเดินหน้าทำการตลาดกับกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย (Non-residential projects) อาทิ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม กลุ่มศูนย์การค้าขนาดกลาง หรือไฮเปอร์มาร์เก็ต ที่มีการรีแบรนด์และจำเป็นต้องดำเนินงานก่อสร้างใหม่ ขยายการรับงานทั้งในแนวลึกและแนวกว้าง เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง 

“แม้ในช่วงต้นไตรมาส จะมีมาตรการปิดแคมป์คนงานภาครัฐในกรุงเทพฯเป็นเวลา เดือน แต่บริษัทยังคงมั่นใจในศักยภาพของตลาดในอนาคต และมีขีดความสามารถที่เพียงพอจะช่วยเร่งรัดงานในมือให้ยังเสร็จสิ้นได้ตามกำหนด ปัจจุบัน เรายังคงมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องจากการบริหารโครงการที่ทยอยเข้าไปบริหารเพิ่มเติมตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563ดร.อรุณ กล่าว 

ทั้งนี้ ในครึ่งแรกปี 2564 บริษัทมีสัญญาบริหารงานโครงการ และบริหารงานก่อสร้างในมือแล้ว จำนวน 16 โครงการ อาทิ นอตติ้ง ฮิลล์ ระยอง (Notting Hill Rayong)แฮมป์ตัน ศรีราชา (Hampton Sriracha)ดิ ออริจิ้น อ่อนนุช (The Origin Onnut), Warehouse 22,000 ตร.ม. จำนวน 2 แห่ง บริเวณถนนบางนาตราด กม.19 และ กม.22 โดยมีระยะเวลาควบคุมงาน ถึงปลายปี 2565 

ดร.อรุณ กล่าวอีกว่า หากสถานการณ์ COVID-19 ผ่านพ้นไป การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ของภาครัฐจะกลับมามีบทบาทเข้มข้นในการขับเคลื่อนประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง ส่งผลให้ภาคเอกชนเองพิจารณาลงทุนก่อสร้างมากขึ้น บริษัทจึงจะเร่งขยายการบริการออกไปสู่ กลุ่มธุรกิจย่อย เพื่อให้ครอบคลุมทุกงานบริการวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม ได้แก่ กลุ่มธุรกิจกำกับดูแลการบริหารโครงการ (UPM-PM) กลุ่มธุรกิจบริหารงานก่อสร้างโครงการ (UPM-CM) กลุ่มธุรกิจบริหารงานทรัพยากรกายภาพโครงการ (UPM-FM) กลุ่มธุรกิจกำกับดูแลการออกแบบ (UPM-Design Studio) กลุ่มธุรกิจกำกับดูแลการตรวจสอบอาคาร และสิ่งแวดล้อม (UPM-Inspection & Monitoring) กลุ่มธุรกิจดูแลอบรม สัมมนา และงานวิจัย (UPM-Academy

ขณะที่สัดส่วนรายได้ จะมาจากโครงการในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ประมาณ 40% ของมูลค่ารายได้ที่พึงได้รับของการดำเนินงาน และจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอื่นๆ อีกราว 60% เมื่อเติบโตได้ตามแผนงาน บริษัทตั้งเป้าจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในช่วงไตรมาส 2/2566 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเติบโตอย่างยั่งยืนอีกด้วย และคาดว่าภายใน ปี นอกจากบริษัทจะดำเนินงานควบคุมงานก่อสร้างแล้ว ยังมีการกระจายขอบเขตงานเพิ่มขึ้นอย่างครอบคลุมในทุกๆ ส่วนงาน ที่จะให้บริการวิชาชีพด้านวิศวกรรม และด้านสถาปัตยกรรม แบบครบวงจร  ทั้งนี้ บริษัทมีจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญการบริหารงานโครงการและบริหารงานก่อสร้าง โดยเฉพาะการมีทีมวิศวกรและสถาปนิกมืออาชีพที่การควบคุมคุณภาพการดำเนินงานตามหลักมาตรฐานของญี่ปุ่น ตลอดจนการผ่านการรับรอง ISO 9001-2015 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล