งาน ‘รับสร้างบ้านและวัสดุ Focus 2023 : สร้างบ้านที่ใช่ ในสไตล์ที่ชอบ’ ผลตอบรับดี สมาชิก 32 บริษัทตบเท้าร่วมงาน พร้อมทัพแบบบ้านกว่า 1,000 แบบ ทุกระดับราคาตั้งแต่ 1 – 100 ล้านบาท มีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 5,000 คน ยอดจองรับสร้างบ้านรวม 171 หลัง มูลค่ารวมกว่า 1,589 ล้านบาท เผยยอดจองบ้าน 2.5-10 ล้านพุ่ง เหตุกำลังซื้อคนชั้นกลางฟื้น ธนาคารปล่อยสินเชื่อง่ายขึ้น จ่อดึงกิจกรรมหลากหลายและพันธมิตรที่เกี่ยวข้องร่วมงานครั้งต่อไป เพิ่มความน่าสนใจในการจัดงาน

นายโอฬาร จันทร์ภู่ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน หรือ HBA กล่าวว่า โดยปกติ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านจะมีการจัดกิจกรรมงานรับสร้างบ้านครั้งใหญ่ปีละ 2 ครั้ง คือ ‘งานรับสร้างบ้านและวัสดุ Focus’ ในช่วงต้นปี และ ‘งานรับสร้างบ้านและวัสดุ Expo’ ในช่วงปลายปี ทั้งนี้ สำหรับภาพรวมของการจัดงาน ‘รับสร้างบ้านและวัสดุ Focus 2023 : สร้างบ้านที่ใช่ ในสไตล์ที่ชอบ’ ในระหว่างวันที่ 8 – 12 มีนาคมที่ผ่านมา ณ อิมแพ็ค ฮอลล์ 6 เมืองทองธานี ได้รับผลตอบรับที่ดีเหมือนดังเช่นการจัดงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Focus ทุกครั้งที่ผ่านมา โดยการจัดงานในครั้งนี้ มีสมาชิกทั้งที่เป็นบริษัทรับสร้างบ้านในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และต่างจังหวัดร่วมแสดงสินค้าในงานกว่า 32 บริษัท มีแบบบ้านให้เลือกกว่า 1,000 แบบ ระดับราคา ตั้งแต่ 1 – 100 ล้านบาท และมีผู้เข้าร่วมชมงาน 5,540 คน ขณะที่มียอดจองรับสร้างบ้านรวม 171 หลัง เพิ่มขึ้นจาก 15% จาก ‘งานรับสร้างบ้านและวัสดุ Focus 2022’ โดยคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,589 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากภาพรวมข้อมูลการจองสร้างบ้านภายในงานพบว่าบ้านระดับราคา  5-10 ล้านบาท มียอดจองสูงที่สุด จำนวน 70 หลัง คิดเป็นสัดส่วน 41% ของยอดจองทั้งหมด รองลงมาได้แก่ บ้านระดับราคา  2.5-5 ล้านบาท ซึ่งมียอดจองจำนวน 58 หลัง คิดเป็นสัดส่วน 34% ถัดมาเป็นบ้านระดับราคา  10-20 ล้านบาท ซึ่งมียอดจองจำนวน 28 หลัง คิดเป็นสัดส่วน 16% และบ้านระดับราคา  20 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งมียอดจองจำนวน 10 หลัง คิดเป็นสัดส่วน 6% ตามลำดับ ขณะที่บ้านระดับราคาต่ำกว่า  2.5 ล้านบาท มียอดจองน้อยที่สุด จำนวน 5 หลัง คิดเป็นสัดส่วนเพียง 3%

“จากข้อมูลของการจองสร้างบ้านภายในงานครั้งนี้ พบว่าบ้านในระดับราคา 2.5-10 ล้านบาท มียอดจองรวม 128 หลัง คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 75% ของการจองปลูกสร้างบ้านภายในงาน ซึ่งสำหรับลูกค้าที่สร้างบ้านในระดับราคาดังกล่าว ส่วนใหญ่จะใช้วิธีขอสินเชื่อจากทางธนาคาร ต่างจากกลุ่มลูกค้าที่สร้างบ้านในราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เงินสด ทั้งนี้ จากข้อมูลการจองรับสร้างบ้านดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจมีภาวะดีขึ้น คนที่มีฐานะปานกลางซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศมีกำลังซื้อที่ดีขึ้น และปัจจุบันธนาคารก็ได้ผ่อนคลายความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อลง ทำให้ผู้บริโภคในกลุ่มนี้เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ยอดจองรับสร้างบ้านในระดับราคา 2.5-10 ล้านบาทเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย” นายโอฬาร กล่าว

นายโอฬาร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากปัจจัยในด้านของเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและการผ่อนคลายความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ปัจจัยจากจากภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งส่งผลให้ทิศทางของอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้แถลงผลการประชุมไปเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 1.50 เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี โดยให้มีผลทันที และยังมีแนวโน้มว่าอาจจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก ก็มีส่วนที่เป็นปัจจัยผลักดันให้ลูกค้าที่จองสร้างบ้านในระดับราคา 2.5-10 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้วิธีขอสินเชื่อและมีความกังวลเรื่องของอัตราดอกเบี้ยตัดสินใจรีบปลูกสร้างบ้านในช่วงเวลานี้ ประกอบกับคาดการณ์ว่าจะมีการปรับราคารับสร้างบ้านขึ้น 5-7% ในไตรมาสสองของปีนี้ตามต้นทุนค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ก็ยิ่งเป็นปัจจัยเร่ง จึงทำให้ยอดจองรับสร้างบ้านนับตามจำนวนหลังในการจัดงานครั้งนี้เพิ่มขึ้นถึง 15% จาก ‘งานรับสร้างบ้านและวัสดุ Focus 2022’ ในปีที่ผ่านมา

“แม้ยอดจองรับสร้างบ้านนับตามจำนวนหลังจะเพิ่มขึ้น 15% แต่หากเปรียบเทียบเป็นมูลค่าของยอดจองพบว่าน้อยกว่าการจัดงานครั้งที่ผ่านมา ซึ่งมีการจองปลูกสร้างบ้านในระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป นับเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ทำให้แม้จะมีจำนวนหลังน้อยกว่า แต่มูลค่าก็พุ่งขึ้นไปสูงกว่าการจองปลูกสร้างในปีนี้ ที่ส่วนใหญ่อยู่ที่ระดับราคา 2.5-10 ล้านบาท” นายโอฬาร กล่าว

นายโอฬาร ยังอธิบายเพิ่มเติมถึงสาเหตุที่ทำให้ยอดจองสร้างบ้านระดับราคาต่ำกว่า  2.5 ล้านบาทในการจัดงานครั้งนี้มีเพียง 5 หลัง คิดเป็นสัดส่วนเพียง 3% ว่า ด้วยราคาที่ดินที่พุ่งสูงขึ้นและราคาค่าก่อสร้างบ้านที่สูงขึ้น ซึ่งในการปลูกสร้างบ้าน ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะเลือกแบบบ้านที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 150 ตารางเมตรขึ้นไป ที่โดยมาตรฐานการรับสร้างบ้านในขนาดดังกล่าว ราคาจะไม่ต่ำกว่า 2.5 ล้านบาทอยู่แล้ว จึงทำให้ยอดจองสร้างบ้านระดับราคาต่ำกว่า  2.5 ล้านบาทภายในงานน้อยลงตามไปด้วย

นายโอฬาร ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้เข้าร่วมชมงานครั้งนี้อีกว่า สำหรับผู้เข้าร่วมชมงานทั้งหมด 5,540 คน ในจำนวนนี้แบ่งเป็นคนกรุงเทพฯ-ปริมณฑลในสัดส่วนประมาณ 80% และเป็นคนต่างจังหวัด 20% เนื่องการจัดงานครั้งนี้มีสมาชิกที่เป็นบริษัทรับสร้างบ้านในต่างจังหวัดมาร่วมออกบูธมากขึ้น จำนวน 5-10 ราย และในอนาคตก็มีแนวโน้มว่าทั้งสมาชิกและผู้เข้าร่วมชมงานจากต่างจังหวัดจะมาร่วมงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสำหรับในส่วนของสมาชิกบริษัทรับสร้างบ้านในต่างจังหวัดที่มาออกงาน ก็ได้ผลตอบรับที่ดี เนื่องจากคนในท้องถิ่นจะนิยมสร้างบ้านในราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท แต่สำหรับคนที่จองสร้างบ้านภายในงาน ส่วนหนึ่งเป็นบุตรหลานของคนต่างหวัดที่มาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ หรือคนกรุงเทพฯ ที่ต้องการจะไปสร้างบ้านหลังที่สองในต่างจังหวัด จึงมีการจองปลูกสร้างบ้านในแบบที่สวยงามขึ้น ขนาดใหญ่ขึ้น และราคาสูงขึ้นตามไปด้วย

“เราอยากให้รูปแบบการจัดงานรับสร้างบ้านกลับมาเหมือนก่อนเกิดโควิด-19 ซึ่งนอกจากการแสดงสินค้าและโปรโมชั่นต่างๆ ภายในงานยังมีกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการปลูกสร้างบ้านโดยวิศวกร บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับหลักฮวงจุ้ย กิจกรรมให้ความรู้ทางด้านวิชาการ ตลอดจนมีพันธมิตรด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมงาน ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำให้การจัดงานมีความน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งเราจะทำให้การจัดงานในรูปแบบนี้กลับมาอีกครั้งในงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2023’ ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้” นายโอฬาร กล่าวทิ้งท้าย