การ์เด้น แอทลาส  เปิดตัวโครงการ GARDEN ATLAS BAYVIEW บ้านพักอาศัยระดับ Ultra Luxury บนอ่าวมะขาม แหลมพันวา ภูเก็ต วิวทะเลพาโนรามา 3 อ่าว มูลค่า กว่า 2,000 ล้าน พร้อมฟังก์ชันสุดหรู 6 ห้องนอน 2 สระว่ายน้ำ และสวนลอยฟ้า ชูทำเลศักยภาพ “Monaco of Asia” เมืองชายฝั่งแห่งอนาคต รองรับการเดินทางทางรถ เรือ และซีเพลน เชื่อมสมุย–พัทยา–หัวหิน วางเป้าผลักดันแบรนด์ Garden Atlas สู่ระดับโลก เจาะตลาดบ้านหรู 5 ล้านดอลลาร์ ดึงกลุ่มนักลงทุนมั่งคั่งไทย–ต่างชาติ

นายต่อศักดิ์ ใจชื่น ซีอีโอ บริษัท การ์เด้น แอทลาส เบย์วิว วิลล่า จำกัด เปิดเผยว่าจากประสบการณ์ในการพัฒนาบ้านพักอาศัยในจ.ภูเก็ตมากว่า 20 ปี และประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการวิลล่าหรู ราคา 30-50 ล้านบาท ย่านเชิงทะเล จ.ภูเก็ต ในในปี 2563 จำนวน 13 ยูนิต มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท โดยสามารถปิดการขายได้ภายใน 3 เดือน ล่าสุดบริษัทได้ต่อยอดพัฒนาโครงการ GARDEN ATLAS BAYVIEW โครงการบ้านพักอาศัยระดับ Ultra Luxury บนทำเลอ่าวมะขาม แหลมพันวา จังหวัดภูเก็ต บนพื้นที่ 16 ไร่ จำนวน 15 ยูนิต ราคาเฉลี่ยหลังละ 150 ล้านบาท มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท โดยวิลล่าถูกออกแบบมีฟังก์ชันแบบบ้านขนาดใหญ่ 6 ห้องนอน 8 ห้องน้ำ 2 ห้องครัว 3 สเปซพักผ่อน 3 ที่จอดรถ​ 2 สระว่ายน้ำ พร้อมพูลเดย์เบดแบบฮันนีมูนซีท 6 ชุดอยู่ในสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 6×15 เมตร และมีพื้นที่พิเศษสวนลอยฟ้าพร้อมศาลา โดยมีพื้นที่ใช้สอยทั้งภายในและภายนอกรวมประมาณ 1,585 ตารางเมตร​

โครงการ GARDEN ATLAS BAYVIEW พัฒนาภายใต้แนวคิด Timeless ที่มีความงดงามร่วมสมัยเหนือกาลเวลา ด้วยวิลล่าสไตล์ Modern Bali Contemporary เลือกใช้วัสดุโทนสีชนิดดูแลง่าย Low Maintenance เพื่อการอยู่อาศัยแบบ Well being ใช้วัสดุเกรด Hi-end ทั้งหลัง โดยเน้นสร้างประสบการณ์การพักอาศัยที่แตกต่าง ทั้งการพักอาศัยระยะสั้น ระยะยาวหรือช่วงวันพิเศษ ให้ผู้พักอาศัยได้ใช้พื้นที่เฉลิมฉลองแบบครบทุกฟังก์ชัน พื้นที่ส่วนกลางโครงการครบครันทั้งคลับเฮ้าส์หรู ฟิตเนสแบบ Full Function มี Paddle tennis พื้นที่ร้านอาหารและคาเฟ่ สำหรับต้อนรับแขกของลูกบ้าน สามารถจอดรถกว่า 30 คัน พร้อมพื้นที่จัดงานกิจกรรม ซึ่งรองรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้มากถึง ​150 คน

นายต่อศักดิ์ กล่าวต่อไปถึงทำเลที่ตั้งของโครงการ GARDEN ATLAS BAYVIEW อีกว่า การที่บริษัทเลือกพัฒนาโครงการในทำเลอ่าวมะขาม แหลมพันวา เพราะเป็นทำเลศักยภาพทั้งในปัจจุบันและอนาคต บริเวณแห่งนี้มีความเหมือนกับเมืองชายฝั่งอย่างโมนาโกที่มีพื้นที่เพียง 2.02 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองมหาเศรษฐีที่มีชีวิตความเป็นอยู่หรูหรา แต่ปัจจุบันโมนาโกมีข้อจำกัดไม่สามารถพัฒนาโครงการใหม่ได้และราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงมากขึ้น ราคาคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 52,000-130,000 ยูโรต่อตารางเมตร ซึ่งสูงกว่าราคาอสังหาฯ บนพื้นที่อ่าวมะขามหลายเท่าตัว จึงคาดว่าไม่เกิน 10 ปี อ่าวมะขาม แหลมพันวาจะได้รับความนิยมเช่นเดียวกับโมนาโก อย่างไรก็ตาม ราคาอสังหาฯ บนพื้นที่อ่าวมะขามก็มีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามศักยภาพของพื้นที่ที่จะถูกพัฒนาให้เจริญมากขึ้นด้วยเช่นกัน

“จากประสบการณ์ในการพัฒนาบ้านพักอาศัยมากว่า 20 ปี มองเห็นศักยภาพของทำเลดังกล่าว ซึ่งจะพัฒนาและเติบโตเป็นจุดหมายปลายทางของ Maritime Luxury Living พื้นที่การอยู่อาศัยระดับบนและไลฟ์สไตล์แบบเมืองชายฝั่ง เพราะมองเห็นวิวทะเลบนเนินเขา (Hilltop) เห็นวิวได้แบบพาโนรามา ได้ถึง 3 อ่าว และมีท่าจอดเรือ ถือว่าเป็น Rare Coastal Location ซึ่งอยู่ในฝั่งทิศตะวันออกของเกาะภูเก็ต แหลมพันวา จะกลายเป็น Monaco of Asia เมืองชายทะเลชั้นนำระดับนานาชาติที่ผู้ซื้อไม่ได้เป็นเจ้าของเพียงบ้านแต่คือผู้มีไลฟ์สไตล์ระดับโลก การซื้ออสังหาฯ ในทำเลนี้จึงถือว่าได้ราคาที่คุ้มค่า และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคตด้วย” นายต่อศักดิ์ กล่าว

นอกจากนี้ ทำเลอ่าวมะขาม ยังมีความโดดเด่น โดยเป็นพื้นที่ชายฝั่งสงบ สภาพอ่าวเป็นพื้นที่ทะเลมีน้ำลึกและสันอ่าวนิ่ง จึงเหมาะสมสำหรับการการจอดเรือยอร์ชและการเดินเรือสากล ใกล้ท่าเรือระดับนานาชาติ และบริการ Ocean Leisure ครบวงจร ทำเลติดอ่าวที่มีจำนวนจำกัด เป็นสินทรัพย์ที่มูลค่าเพิ่มขึ้นตามเวลา และเป็นอ่าวเดียวในภูเก็ตที่การเดินทางไม่ได้จำกัดเพียงทางรถ แต่ยังสามารถเดินทางด้วยเรือ และในอนาคตจะสามารถเดินทางได้ด้วยเครื่องบินสำหรับการเดินทางทางน้ำ หรือ​ Seaplane ซึ่งภาครัฐและเอกชนกำลังผลักดันการพัฒนาเทอร์มินัลซีเพลนที่ภูเก็ต เพื่อเชื่อมรีสอร์ตเดสติเนชันทั้งสมุย พัทยา และหัวหิน เข้าด้วยกัน ช่วยลดเวลาเดินทางข้ามอ่าวไทยและอันดามัน ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการจัดทำ EIA และผลักดันเชิงนโยบาย

ซีอีโอบริษัทการ์เด้น แอทลาส เบย์วิล วิลล่า ยังเปิดเผยถึงการพัฒนาโครงการอีกว่า บริษัทยังได้นำแนวคิดในการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ คือ “Life Curated” มาใช้ในการพัฒนาโครงการ GARDEN ATLAS BAYVIEW ถือแนวคิดใหม่ของการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ เพราะผู้เป็นเจ้าของจะสามารถออกแบบชีวิตและทรัพย์สินของตัวเองได้ตามความต้องการ ซึ่งเชื่อว่ากลุ่มลูกค้าของโครงการที่เป็นเจ้าของธุรกิจทั้งในประเทศไทย รวมถึงกลุ่มนักลงทุนผู้มั่งคั่งทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม Hybrid Billionaire ผู้มีวิสัยทัศน์สามารถมองเห็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการเป็นเจ้าของวิลล่าในโครงการ ที่สามารถสร้างผลตอบแทนจากการให้เช่ากับกลุ่มลูกค้าระดับบนได้คืนละ 1,650-4,200 ดอลล่าร์ และยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มตามกาลเวลาเมื่อถือครองต่อไปในอนาคต เป็นสินทรัพย์ที่มูลค่าสูง ซึ่งโครงการ GARDEN ATLAS BAYVIEW ได้รับความสนใจตั้งแต่ก่อนเปิดขายอย่างเป็นทางการ โดยได้รับความสนใจจากลูกค้า 7-8 รายแล้ว ในจำนวนนี้เป็นขาวต่างชาติในสัดส่วน 50% และคนไทย 50% ทั้งนี้ แผนต่อไปบริษัทวางเป้าหมายผลักดันแบรนด์ Garden Atlas สู่การเป็น Residences Brand ระดับโลก เจาะตลาดบ้านหรูมูลค่า 5 ล้านดอลล่าร์ 

ด้านนางสาวประกายเพชร มีชูสาร หัวหน้าแผนกซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดที่พักอาศัยตากอากาศประเภทวิลล่ามีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าปี 2567 มียอดขายเพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อนหน้า ซึ่งต้องถือว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา หากพิจารณาโครงการระดับลักซ์ชัวรี่ที่มีมูลค่ามากกว่าหลังละ 90 ล้านขึ้นไป ซัพพลายในตลาดมีเพียง 6.89% ซึ่งมียอดขายแล้วกว่า 76% โดยทำเลที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดคือทำเลชายฝั่งตะวันออก (ทิศใต้) สามารถทำยอดขายได้สูงที่สุดถึง 92.8% เหตุผลที่ทำเลนี้ได้รับความสนใจอย่างมากสำหรับตลาดลักซ์ชัวรี่นี้คือ ทัศนียภาพอันงดงามของวิวทะเล ที่เรียงรายด้วยเกาะแก่งต่างๆ ทำให้วิวที่อยู่เบื้องหน้างดงาม อีกทั้งยังเห็นเรือสำราญจอดเทียบท่า จึงทำให้ภาพทิวทัศน์เปลี่ยนไปทุกวัน ทำให้ทำเลนี้เป็นทำเลศักยภาพ ที่สามารถดึงดูดนักลงทุนและผู้ซื้อระดับบนจากทั่วโลกที่ต้องการไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับ พร้อมการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ให้เข้ามาจับจองวิลล่าหรู

ทั้งนี้ จากพฤติกรรมลูกค้าที่ซื้อที่พักอาศัยตากอากาศประเภทวิลล่านี้ มีจุดประสงค์ในการซื้อเพื่อการลงทุน 68% และเพื่ออยู่อาศัยเอง 31% แบ่งเป็นสัดส่วนลูกค้าชาวไทย 57% และชาวต่างชาติ 43% ซึ่งลูกค้าชาวต่างชาติส่วนใหญ่มาจากโซนยุโรป อเมริกาและโซนเอเชีย ได้แก่ อังกฤษ ฮ่องกงและอเมริกาตามลำดับ