ออร์เนอร์ ไทยแลนด์ ชี้พัทยาเมืองศักยภาพ เป็นเมืองท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสำคัญของภูมิภาค รวมทั้งมีโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เผยวงศ์อมาตย์ที่ดิน Freehold ใกล้หมด ราคาพุ่งกว่า 50% ในปีที่ผ่านมา ขณะที่ซัพพลายคอนโดเหลือเพียง 4% ล่าสุดลุยเปิดโครงการใหม่ ONCE WONGAMAT คอนโด Super Luxury Freehold มูลค่า 8,000 ล้าน ผลตอบรับเยี่ยม โกยยอดขายแล้วกว่า 2,000 ล้าน
นางสาวธิดา เชิดสุริยา ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทในเครือ ออร์เนอร์ ไทยแลนด์ (Honour Thailand) เปิดเผยว่า ออร์เนอร์ ไทยแลนด์ เป็นผู้ประกอบการธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในพัทยา จังหวัดชลบุรี มากว่า 20 ปี โดยปัจจุบัน ได้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งในรูปแบบของโรงแรม คอนโดมิเนียม คอมมูนิตี้มอลล์ และโครงการมิกซ์ยูส รวมทั้งหมด 8 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 13,000 ล้านบาท
นางสาวธิดา กล่าวอีกว่า บริษัทมีความตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเมืองพัทยาเพื่อดึงดูดทั้งกลุ่มคนไทย และต่างชาติ โดยมุ่งเน้นการพัฒนา “World-Class Living Destination” ที่ยั่งยืนและมีคุณภาพภายใต้แนวคิด “Beyond Living” ไม่ใช่แค่สร้างคอนโดฯ แต่คือการยกระดับคุณภาพชีวิต สังคม และเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ภาพรวมของการของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์บนทำเลพัทยาในปัจจุบัน มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนมาจากภาคธุรกิจการท่องเที่ยว และโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ส่งผลให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เห็นได้จากความสำเร็จของ ONCE PATTAYA ที่ SOLD OUT ไปแล้ว ล่าสุดบริษัทจึงเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ ONCE WONGAMAT คอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury Freehold มูลค่าโครงการ 8,000 ล้านบาท เพื่อมุ่งหวังที่จะสร้างให้เป็นแลนด์มาร์กใหม่บนทำเลที่ดีที่สุดของพัทยาเหนือ ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท
สำหรับทำเลที่ตั้งของโครงการ ONCE WONGAMAT อยู่ติดถนนใหญ่พัทยา-นาเกลือ ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพใจกลางพัทยาเหนือ ใกล้วงเวียนปลาโลมา ติดกับคอมมูนิตี้มอลล์ again Pattaya, ห่างจาก Terminal 21 Pattaya 150 เมตร และชายหาดพัทยาเหนือ 590 เมตร รวมทั้งใกล้หาดวงศ์อมาตย์ สามารถเชื่อมต่อการเดินทางกับถนนสายหลักได้ทั้งถนนพัทยาเหนือและถนนสุขุมวิท นอกจากนี้ทำเลย่านนี้จัดให้เป็นโซน Luxury Lifestyle ที่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกหรูอย่างครบครัน ทั้งโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ร้านอาหารอินเตอร์เนชั่นแนล รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำจำนวนมาก และในอนาคตยังมีโครงการระบบขนส่งสาธารณะเมืองพัทยาในรูปแบบรถไฟฟ้าโมโนเรลทั้งหมด 4 สายหลักอีกด้วย
สำหรับทำเลวงศ์อมาตย์ ปัจจุบันที่ดินที่ Free Hold จะทำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แทบไม่มีเหลือแล้ว โดยราคาที่ดินในโซนนี้สูงขึ้นถึง 50.60% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่มีซัพพลายที่อยู่อาศัยในรูปแบบคอนโดมีเนียมเหลืออยู่เพียง 4% หรือประมาณ 330 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งคอนโดในโซนนี้มีอัตราผลตอบแทนการปล่อยเช่า (Rental Yield) อยู่ที่ 3.6-5% ต่อปี และกำไรจากส่วนต่างของทุน (Capital Gain) 3.3-4.6% ต่อปี ส่วนโรงแรม 5 ดาวในโซนนี้ ราคาเข้าพักต่อคืนอยู่ที่ 5,000-10,000 บาท และอัตราค่าเช่าอยู่ที่ 150,000-200,000 บาท/เดือน ขณะที่โครงการ ONCE WONGAMAT ราคาอยู่ที่ 6.9 – 59.9 ล้านบาท จึงเหมาะสำหรับทั้งการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและการลงทุน
นางสาวธิดา ให้ข้อมูลต่อไปอีกว่า โครงการ ONCE WONGAMAT ตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 4 ไร่ เป็นอาคารไฮไรส์สูง 56 ชั้น มูลค่าโครงการ 8,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนึ่งในอาคารที่สูงที่สุดของเมืองพัทยา จำนวนห้องชุดพักอาศัย 548 ยูนิต มีแบบห้องชุดให้เลือก 5 แบบ ขนาด 1-3 ห้องนอน และห้องเพนท์เฮ้าส์ พื้นที่ใช้สอย 34 – 461 ตร.ม. มองเห็นวิวทะเลทุกยูนิต และครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากถึง 8 ชั้น ปัจจุบันโครงการได้เริ่มงานก่อสร้างแล้วตามแผน คาดว่างานก่อสร้างจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3 ปี 2572
ด้านนายคริส เชิดสุริยา ที่ปรึกษาประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทในเครือ ออร์เนอร์ ไทยแลนด์ (Honour Thailand) กล่าวว่า เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นพื้นที่ที่มีรายได้ทั้งจากเม็ดเงินจากการลงทุนในภาคอุตสาหรกรรม และเป็นแหล่งงานสำคัญ โดยมีนิคมอุตสาหกรรมทั้งหมด 31 แห่ง รวมถึงรายได้จากภาคการท่องเที่ยว และมีโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งสำหรับชลบุรีหนึ่งในจังหวัดที่ตั้งอยู่ใน EEC ในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน 2568 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางทางมาท่องเที่ยวมากกว่า 4 ล้านคน สูงเป็นลำดับสองของประเทศไทย รองจากกรุงเทพฯ และสำหรับชลบุรี พัทยานับเป็นเมืองหลักสำคัญ และเป็นตลาดที่อยู่อาศัยที่มีศักยภาพ โดยในอนาคตจะมีโครงการระบบขนส่งสาธารณะเมืองพัทยาในรูปแบบรถไฟฟ้าโมโนเรล มีทั้งหมด 4 สายหลัก ได้แก่ สายสีเขียว (สถานีรถไฟพัทยา–เมืองพัทยา–ทัพพระยา–แหลมบาลีฮาย), สายสีเหลือง (ศรีราชา–สถานีรถไฟพัทยา–ท่าเรือสัตหีบ), สายสีม่วง (ทัพพระยา–พัทยาใต้–หนองปรือ) และสายสีแดง (เมืองพัทยา–ทัพพระยา–จอมเทียนสาย 2–หนองปรือ) เพื่อเชื่อมโยงระบบคมนาคมทุกเส้นทางในเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ และขับเคลื่อนเมืองพัทยาสู่การเป็น “เมืองน่าอยู่ เมืองท่องเที่ยวอัจฉริยะ” นอกจากนั้นยัง มีโครงการพัฒนาท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) บริเวณ Bali Hai Pier ใกล้ชายฝั่งพัทยา ด้วยงบประมาณ 7 . 4 พันล้านบาท รวมทั้งโครงการเอาเสาไฟฟ้าลงใต้ดินทั้งเมือง ซึ่งจะเสริมภูมิทัศน์ทำให้พัทยาเป็นเมืองที่น่าอยู่มากขึ้นอีกด้วย