ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ชี้การเดินทางสะดวกที่สะดวก โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายในอนาคต การมีที่อยู่อาศัยจำนวนมาก และกลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อ ช่วยส่งทำเลพุทธมณฑล-เพชรเกษมเติบโตอย่างมีศักภาพ ปักหมุดเพิ่มโครงการทาวน์โฮมใหม่ “ไลโอ สาย 5 – ไร่ขิง” รับตลาดโต ชูจุดเด่นดีไซน์ฉีกตลาด ฟังก์ชันลงตัว ทำเลติดถนน ราคาคุ้มค่า เผยโกยยอดขายแล้วกว่า 25%

นายวิกรม ทนทัศน์กุล รองผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ LALIN เปิดเผยว่า พุทธมณฑล-เพชรเกษม นับเป็นหนึ่งในทำเลศักยภาพในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เนื่องจากเป็นทำเลที่สะดวกต่อการเดินทางสู่ใจกลางเมือง ทั้งทางถนนบรมราชชนนี, ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร, ถนนพุทธมณฑลสาย 5, ถนนเพชรเกษม-บางแค, ถนนบรมราชชนนี-ปิ่นเกล้า และยังมีถนนสายรองซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ตั้งแต่ถนนพุทธมณฑล สาย 1 ไปจนถึงถนนพุทธมณฑล สาย 5 รวมไปถึง ถนนพรานนก – กาญจนาภิเษก, ถนนบางแวก และถนนศาลาธรรมสพน์ ที่กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ปัจจุบันสถานีที่อยู่ใกล้ทำเลนี้ที่สุดจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน สถานีตลิ่งชัน กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีหลักสอง โดยในอนาคตรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายจะมีส่วนต่อขยายมาจนถึงสถานีศาลายา (สายสีแดงอ่อน) และสถานีพุทธมณฑลสาย 4  ทำเลพุทธมณฑล-เพชรเกษมจึงมีอนาคตในการเติบโตที่สดใส

ทั้งนี้ สำหรับ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ได้มีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในทำเลดังกล่าวทั้งหมด 8 โครงการ มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท ล่าสุดคือโครงการ “ไลโอ สาย 5 – ไร่ขิง” รูปแบบทาวน์โฮมสไตล์ French Colonial จำนวน 205 ยูนิต บนพื้นที่ 21 ไร่ ติดถนนไร่ขิง-ดอนหวาย มูลค่าโครงการกว่า 500 ล้านบาท โดยมีจุดเด่นด้านดีไซน์ที่แตกต่าง ผังโครงการโปร่ง โล่ง ไม่แออัดด้วยจำนวนยูนิตในแต่ละคลัสเตอร์เพียง 6 ยูนิต ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนไร่ขิง-ดอนหวาย มีเส้นทางคมนาคมทั้งหลักและรองจำนวนมาก เชื่อมต่อสู่พื้นที่หลักๆ ได้อย่างสะดวก รายล้อมด้วยแลนด์มาร์คและสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ วัดไร่ขิง ตลาดไร่ขิง ตลาดดอนหวาย โรงเรียนวัดไร่ขิง โรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ เซ็นทรัลศาลายา ฯลฯ นอกจากนั้นยังโดดเด่นด้วยฟังก์ชันที่ใช้งานได้จริง จอดได้สูงสุด 2 คัน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในโครงการ อาทิ ห้องฟิตเนส มุม Co-Working Space และสวนสไตล์โพรวองซ์

นายวิกรม ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าโครงการ “ไลโอ สาย 5 – ไร่ขิง” มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ คือ Lille พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 105 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ ราคาขายเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท และ Lyon พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 125 ตร.ม.  4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาขายเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท

ด้านนางสาวชุติกาญจน์ โพธิ์ทอง ผู้จัดการฝ่ายบริหารงานขายโครงการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ LALIN กล่าวว่า ทำเลพุทธมณฑลสาย 5 – ไร่ขิง เป็นทำเลที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งนอกจากผู้พัฒนาโครงการท้องถิ่น ยังมีผู้พัฒนาโครงการรายใหญ่จากส่วนกลางเข้ามาพัฒนาโครงการอีกหลายราย แต่ด้วยจุดเด่นของโครงการ “ไลโอ สาย 5 – ไร่ขิง” ทั้งในเรื่องของดีไซน์ ทำเล ฟังก์ชัน ในราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท ทำให้ได้รับความสนใจจากลุ่มลูกค้าทั้งกลุ่มคนที่ทำงานในย่านชานเมือง อาทิ บางแค ที่มองหาที่อยู่อาศัยในย่านปริมณฑลที่การเดินทางสะดวกและไม่ไกลที่ทำงาน ตลอดจนกลุ่มข้าราชการ  คนทำงานในพื้นที่ และเจ้าของกิจการขนาดย่อม โดยปัจจุบัน โครงการ “ไลโอ สาย 5 – ไร่ขิง” มียอดขายแล้วกว่า 25% ของจำนวนยูนิตทั้งหมดในโครงการ และคาดว่าจะปิดการขายโครงการในเฟสแรก (จากทั้งหมด 3 เฟส) จำนวน 51 ยูนิต ภายในไตรมาสสองของปีนี้ โดยพร้อมจะเดินหน้าเปิดโครงการในเฟสต่อไปทันที

ทั้งนี้ สำหรับ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2567 จำนวน 10-12 โครงการ โดยปัจจุบันมีการเปิดตัวโครงการใหม่ไปแล้ว 6 โครงการ มูลค่ารวม 1,800 ล้านบาท