ไนท์แฟรงค์ชี้ค่าเงินปอนด์อ่อน ดอกเบี้ยต่ำ ซัพพลายจำกัด ส่งผลอสังหาฯ ซูเปอร์ไพรม์ลอนดอนโต ชี้ซื้อเก็บแนวโน้มสร้างผลตอบแทนสูง จากการคาดการณ์อีก 5 ปีราคาบ้านในย่านไพร์มใจกลางลอนดอนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 7.5%
มร.ฮามิช เอกกิ้นส์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ จำกัด เผยว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับซูเปอร์ไพรม์ในลอนดอน หรือตลาดที่อยู่อาศัยในระดับราคา 10 ล้านปอนด์ขึ้นไป นับได้ว่าเป็นตัวชี้วัดสำคัญสำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ตามในช่วงที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ปริมาณธุรกรรมของอสังหาริมทรัพย์ระดับซูเปอร์ไพรม์ในลอนดอนอาจปรับลดลงไปบ้าง แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ตัวเลขก็เริ่มดีขึ้น โดยในระหว่างเดือนกันยายน 2564 ถึงเดือนสิงหาคม 2565 มีธุรกรรมเกิดขึ้นทั้งหมด 155 รายการ มูลค่ามากกว่า 10 ล้านปอนด์ ซึ่งสูงสุดในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา
สำหรับปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ตลาดมีการเติบโตมาจากการที่ค่าเงินปอนด์อ่อนค่า ซึ่งหากซื้ออสังหาริมทรัพย์ด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐหรือดอลลาร์ออสเตรเลีย ก็จะเหมือนได้ส่วนลดเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา หากซื้ออสังหาริมทรัพย์ด้วยสกุลเงินดังกล่าว จะเหมือนได้ส่วนลดถึง 30% นอกจากนั้นอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างต่ำ ที่ดินที่มีจำกัด ซึ่งส่งผลให้มีซัพพลายออกมาในตลาดค่อนข้างจำกัด ขณะที่ตลาดยังมีความต้องการ ต่างก็เป็นปัจจัยที่ช่วยขับเคลื่อนตลาดอสังหาฯ ระดับไพร์มของสหราชอาณาจักร และส่งผลให้ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2565 มีธุรกรรมตลาดอสังหาฯ ระดับไพร์มคิดเป็นสัดส่วนถึง 70% ของธุรกรรมตลาดบ้านในลอนดอน
ทั้งนี้ ไนท์แฟรงค์ ได้เผยบทวิเคราะห์จำนวนคำสั่งขายใหม่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ลอนดอน ตามดัชนีล่าสุดของไนท์แฟรงค์ สะท้อนถึงราคาบ้านในย่านไพร์มใจกลางกรุงลอนดอน ซึ่งพบว่าเพิ่มขึ้น 2.7% และจำนวนผู้ซื้อในอนาคตในในย่านไพร์มใจกลางกรุงลอนดอนและในย่านไพร์มรอบๆ กรุงลอนดอนอยู่ที่ 53% สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี (ไม่รวมปี 2563) ในเดือนกันยายนนี้ พร้อมคาดการณ์อีก 5 ปีราคาบ้านในย่านไพร์มใจกลางลอนดอนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 7.5% และราคาบ้านในย่านดังกล่าวจะมีประสิทธิภาพเหนือกว่าตลาดอื่นๆ ในสหราชอาณาจักรส่วนใหญ่ในอีก 5 ปี
ด้านนางวิคตอเรีย การ์เร็ตต์ หัวหน้าฝ่ายที่อยู่อาศัย ไนท์แฟรงค์ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า จากสถานการณ์เงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง และแนวโน้มเศรษฐกิจในปัจจุบันนับเป็นโอกาสของนักลงทุนชาวไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยหนึ่งในทำเลที่มีศักยภาพและคุ้มค่าในการลงทุนอยู่ที่ย่านไพรม์แอเรีย
นางวิคตอเรีย กล่าวอีกว่า โครงการ Chelsea Barracks เป็นหนึ่งในโครงการระดับซูเปอร์ไพรม์ในลอนดอนที่น่าสนใจ โดยมีจุดเด่นคือตั้งอยู่ในย่านใจกลางกรุงลอนดอน โดยตั้งอยู่ในเขตเบลกราเวียซึ่งเป็นย่านประวัติศาสตร์อันมั่งคั่งในใจกลางกรุงลอนดอน ครอบคลุมทั้งเมืองเวสต์มินสเตอร์ ราชสำนักแห่งเคนซิงตัน และเชลซี เขตหรูหรานี้ห้อมล้อมรอบด้วยถนนสโลนและถนนคิงส์ เต็มไปด้วยร้านค้าหรูหรา ร้านบูติกอันโด่งดัง หอวิจิตรศิลป์ รวมทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหราชอาณาจักร
ทั้งนี้ Chelsea Barracks พัฒนาโครงการโดย Qatari Diar Europe LLP ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักร โดยโครงการ Chelsea Barracks ตั้งอยู่บนพื้นที่ 12.8 เอเคอร์ ประกอบไปด้วยอพาร์ตเมนต์ เพนท์เฮาส์ สนามหญ้า และทาวน์เฮาส์ รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ร้านอาหาร ร้านค้า อุปกรณ์กีฬา สโมสรสุขภาพ สปา และพื้นที่สีเขียวสำหรับสาธารณะ 5 เอเคอร์ (40% ของพื้นที่โครงการ) โดยเฟสแรก เป็นการพัฒนาทาวน์เฮ้าส์ จำนวน 13 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 945 ตร.ม. ราคา 38 ล้านปอนด์/ยูนิต ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้ว 50% และอพาร์ตเมนต์ (สิทธิ์การเช่าถือครองอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว 999 ปี) จำวน 76 ยูนิต ราคา 3 ล้านปอนด์/ยูนิต ปัจจุบันมีมียอดขายแล้ว 90% พร้อมกันนี้กำลังเปิดขายโครงการเฟส 2 ซึ่งเป็นสินค้ากลุ่มอพาร์ตเมนต์ พื้้นที่ใช้สอย 100 ตร.ม. จำนวน 90 ยูนิต