เฟรเซอร์สฯ สวนกระแสตลาดทาวน์โฮมซบ ปั้นแบรนด์น้องใหม่ ‘โกลดีน่า’ พรีเมียมทาวน์โฮมมิติใหม่ลงสู้ศึก เดินหน้าเปิดตัว 2 โครงการปี 68 นำร่องเจาะทำเลทองสุขุมวิท-แบริ่ง ชูดีไซน์โมเดิร์นอิงลิช ฟังก์ชันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ปัจจุบันและอนาคต พร้อมนวัตกรรมประหยัดพลังงาน โชว์กระแสตอบรับดี โกยยอดขายก่อนพรีเซลล์ 350 ล้านบาท
นายภวรัญชน์ อุดมศิริ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังยังคงอยู่ในภาวะติดลบ โดยหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยบางส่วนตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบแทนคอนโดมิเนียม จึงส่งผลให้ตลาดอสังหาฯ แนวราบแม้จะหดตัวแต่ก็หดตัวน้อยลง
ทั้งนี้ สำหรับตลาดทาวน์โฮม เริ่มเติบโตลดลงต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งสำหรับเฟรเซอร์ส ในปี 2562 มีการเปิดตัวโครงการทาวน์โฮม 11 โครงการ มียอดขาย 492 ล้านบาท/โครงการ ปี 2563 เปิดตัว 7 โครงการ มียอดขาย 334 ล้านบาท/โครงการ และแม้หลังวิกฤตโควิด โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบจะเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น แต่เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจและภาวะหนี้ครัวเรือน ยอดขายโครงการทาวน์โฮมก็ยังคงลดลงต่อเนื่อง โดยในปี 2564 เฟรเซอร์สเปิดตัวโครงการทาวน์โฮม 5 โครงการ มียอดขาย 310 ล้านบาท/โครงการ ส่วนในปี 2565 เปิดตัวโครงการทาวน์โฮม 6 โครงการ มียอดขาย 209 ล้านบาท/โครงการ และปี 2566 เปิดตัวโครงการทาวน์โฮม 2 โครงการ ยอดขาย 141 ล้านบาท/โครงการ
แม้ดีมานด์ของตลาดทาวน์โฮมจะลดลงต่อเนื่อง และยังไม่มีสัญญาณบวก แต่เนื่องจากเป็นธุรกิจหลักของบริษัทและเป็นสินค้าที่บริษัทสามารถทำออกมาได้ดี เฟรเซอร์สจึงตัดสินใจรุกตลาดทาวน์โฮมต่อเนื่อง โดยในปี 2568 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 8 โครงการ มูลค่ารวม 8,000-9,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นโครงการทาวน์โฮมแบรนด์น้องใหม่ ‘โกลดีน่า’ ทาวน์โฮมระดับพรีเมียม ที่สะท้อนความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าและไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันและอนาคต 2 โครงการ 2 ทำเล นำร่องด้วยโครงการ ‘โกลดีน่า สุขุมวิท – แบริ่ง’ พรีเมียมทาวน์โฮม สไตล์ใหม่ล่าสุด Modern English จำนวน 207 ยูนิต ราคา 3.59 – 6 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท ปักหมุดทำเลสุขุมวิทตอนปลาย ซึ่งได้สร้างปรากฏการณ์ยอดขายสูงถึง 350 ล้านบาท ตั้งแต่ก่อนการเปิดพรีเซลล์อย่างเป็นทางการ และอีกหนึ่งโครงการในย่านสาธร ที่จะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังเช่นกัน มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท
นายภวรัญชน์ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า 3 กลยุทธ์หลัก ที่ปลดล็อกความสำเร็จโครงการ ‘โกลดีน่า สุขุมวิท – แบริ่ง’ ได้แก่
1.ทำเลทองแห่งอนาคต: เป็นหัวใจของความสำเร็จ โดยโครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพย่านสุขุมวิท – แบริ่ง ซึ่งถือเป็นทำเลสุขุมวิทตอนปลายที่คึกคัก ทันสมัย และครบครันในทุกด้าน นับเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพโซนตะวันออก (East Business District : EBD) รายล้อมด้วยเมกะโปรเจกต์และแหล่งไลฟ์สไตล์สำคัญ อาทิ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล บางนา, แบงค็อกมอลล์ และศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค เชื่อมต่อทุกการเดินทางอย่างง่ายดาย เพียง 2 กม. จากรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีแบริ่ง, และห่างเพียง 4 กม. จากทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนศรีรัช)
2.ดีไซน์ใหม่: สถาปัตยกรรมที่ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่ ตกแต่งด้วย NEW FACADE สไตล์โมเดิร์นอิงลิช ที่พลิกโฉมจาก GOLDEN TOWN (โกลเด้น ทาวน์) สู่ GOLDINA (โกลดีน่า) เพื่อผสานความคลาสสิกให้เข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว โดยได้รับแรงบันดาลใจจากโรงแรมในกลุ่มเฟรเซอร์ พร็อพเพอร์ตี้ ที่ประเทศอังกฤษ และยังเพิ่มความโดดเด่นด้วย NEW FUNCTIONS ที่ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่ด้วยการออกแบบห้อง PENTHOUSE ขนาดใหญ่ (เฉพาะแบบบ้าน AURUM: ออรัม) และเพิ่มพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง พร้อมรองรับทุกกิจกรรมของน้องๆ ไม่ว่าจะเป็น PET SOCIETY โซนกิจกรรมเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยงภายในโครงการ รวมถึงยังมีพื้นที่ห้องเก็บของอำนวยความสะดวกให้พื้นที่ลงตัวมากขึ้น
3.นวัตกรรมรักษ์โลกเพื่อความยั่งยืน: โครงการฯ ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านการประหยัดพลังงานจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) โดยตัวบ้านได้ติดตั้งระบบป้องกันความร้อนจากหลังคา เพื่อความเย็นสบาย และยังออกแบบหลังคาเป็นพิเศษ เพื่อรองรับสำหรับการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในอนาคต พร้อมทั้งยังเพิ่มช่องรับอากาศ และแสงธรรมชาติเพื่อลดการใช้พลังงานภายในบ้านอีกด้วย