เสนาดีเวลลอปเม้นท์ เพิ่มความสามารถในการเข้าถึงที่อยู่อาศัย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาการเป็นเจ้าของบ้านยากและสินเชื่อบ้านกู้ไม่ผ่าน ได้ฤกษ์เปิดตัว “เงินสดใจดี” ผู้ช่วยทางการเงินเพื่อการซื้อบ้านครบวงจร ชูจุดเด่นทั้งให้บริการคำปรึกษา และโปรแกรมด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัย โชว์ผลงานปี 66 ช่วยให้คนเป็นเจ้าของที่พักอาศัยจากยอดที่ธนาคารปฏิเสธได้ 7-10% มูลค่ารวมประมาณ 300 ล้านบาท ปี 67 ตั้งเป้าลดยอดปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารได้อย่างน้อย 10-15%

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการตระหนักในเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกันในวันนี้ เกิดขึ้นด้วยปัญหาหลักของโลก (Social Challenge) ที่แบ่งเป็น 4 เรื่องหลักๆ คือ ปัญหาสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก, ปัญหาการเข้าถึงบริการสาธารณสุข, ปัญหาความเหลื่อมล้ำ และปัญหาการกระจุกตัวของคนเมือง ซึ่งในส่วนของการกระจุกตัวของคนเมือง หมายรวมถึง การพัฒนาเมืองที่ต้องครอบคลุมถึงการมีที่อยู่อาศัยให้เพียงพอสำหรับทุกคน สร้างหลักประกันของการมีบ้านที่ปลอดภัย อยู่อาศัยได้อย่างยั่งยืน และมีราคาที่เข้าถึงได้ แต่ในความเป็นจริงทุกวันนี้ การจะเป็นเจ้าของบ้านได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย และดูเหมือนจะยิ่งยากขึ้นไปอีกโดยเฉพาะคนรายได้น้อยถึงปานกลาง  สาเหตุมาจากหลายปัจจัย ทั้งค่าครองชีพสูงขึ้น ราคาที่ดินแพงขึ้น ราคาที่อยู่อาศัยสูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อ ขณะที่ GDP ต่ำ หนี้ครัวเรือนสูง ล่าสุดปี 2566 หนี้เฉลี่ยต่อครัวเรือนของไทยสูงถึงราว 560,000 บาท ส่วนในปี 2567 มีประมาณการไว้ว่า หนี้ครัวเรือนของไทยจะเพิ่มสูงไปถึงราว 91% ต่อ GDP ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่สูงต่อระบบเศรษฐกิจ และส่งผลให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อบ้านสูง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อถึง 70% 

ผศ.ดร.เกษรา กล่าวอีกว่า ปัจจุบันระดับรายได้ครัวเรือนของประชากรในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีรายได้โดยเฉลี่ย 38,000 บาทต่อเดือน และมีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่า 30,000 บาทต่อเดือน ถึง 54% และมีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่า 50,000 บาทต่อเดือน ถึง 80% ขณะที่ความสามารถในการซื้อบ้านลดลง เนื่องจากรายได้ไม่เพิ่ม หรือเพิ่มขึ้นแต่อยู่ในอัตราที่ไม่ทันกับการเพิ่มขึ้นของราคาบ้านและอัตราดอกเบี้ย จาก 5 ปีที่ผ่านมา ที่ซึ่งอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.5% ที่ครัวเรือนที่มีรายได้ 10,000 บาทต่อเดือน สามารถขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านได้ 1.4 ล้านบาท ปัจจุบันซึ่งอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 5.5% สามารถขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านได้เพียง 1.2 ล้านบาท ขณะที่ครัวเรือนที่มีรายได้ 30,000 บาทต่อเดือน จาก 5 ปีที่ผ่านที่สามารถขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน 4.1 ล้านบาท ปัจจุบันสามารถขอสินเชื่อได้เพียง 3.7 ล้านบาท

ผศ.ดร.เกษรา กล่าวต่อไปว่า เนื่องจากธนาคารผู้ปล่อยสินเชื่อและดีเวลล็อปเปอร์จะได้พบกับผู้บริโภคตอนที่ผู้บริโภคจะซื้อบ้าน ซึ่งแต่ละธนาคารก็จะมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อที่แตกต่างกันไป หากผู้บริโภคมีปัญหาภาะหนี้สินอื่นๆ ก็อาจต้องเจอปัญหาขอสินเชื่อไม่ผ่าน สำหรับสนในส่วนของดีเวลล็อปเปอร์สิ่งที่ทำคือหลีกเลี่ยงจุดที่บอบบางไปหาจุดที่เข้มแข็งด้วยการขยับพอร์ต โดยหันไปพัฒนาโครงการบ้านหรูมากขึ้น ทำให้ซัพพลายบ้านหรูในตลาดเยอะขึ้น ซึ่งไม่สัมพันธ์กับดีมานด์ส่วนใหญ่ในตลาดซึ่งเป็นกลุ่มรายได้น้อยถึงปานกลาง โดยมีรายได้ต่ำกว่า 50,000 บาท ถึง 80% หรือหมายถึงการทำบ้านแพงเพื่อขายกลุ่มคน 20% ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลนั่นเอง

ดร. เกษรา กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหานี้เชื่อว่าทุกภาคส่วนคงมีแนวทางในการร่วมกันแก้ปัญหาในส่วนงานที่ตัวเองทำได้ ซึ่งปัญหาการเข้าถึงการเป็นเจ้าของที่พักอาศัยนั้น ทางเสนาดีเวลลอปเม้นท์ ให้ความสำคัญมาตลอด เป็นหนึ่งใน Mission หลักของบริษัท คือ เพิ่มความสามารถในการเข้าถึงที่อยู่อาศัยให้กับผู้คน โดยสอดคล้องกับแนวทางด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติที่เราให้ความสำคัญเช่นกัน คือ SDG ข้อ 11 Sustainable Cities and Communities หัวข้อย่อยที่ 1.1 หลักประกันว่าจะมีการเข้าถึงที่อยู่อาศัยและการบริการพื้นฐานที่เพียงพอ ปลอดภัย ในราคาที่สามารถจ่ายได้ เสนาจึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหานี้เรื่อยมา โดยหนึ่งในนั้นคือบริการ “เงินสดใจดี” หรือ The lending hand who understands ผู้ช่วยทางการเงินเพื่อสินเชื่อที่อยู่อาศัย โดยได้ผู้บริหารมืออาชีพคือคุณจินตนา ใกล้สุวรรณ ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญทางด้านการเงิน และอสังหาริมทรัพย์ มานั่งเป็นประธานกรรมการบริหาร บริษัท เงินสดใจดี จำกัด

นางสาวจินตนา ใกล้สุวรรณ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เงินสดใจดี จำกัด กล่าวในรายละเอียดว่า เงินสดใจดี เปรียบเสมือน The lending hand who understands หรือ ผู้ช่วยทางการเงินเพื่อสินเชื่อที่อยู่อาศัย พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์และวางแผน สร้างเสริมวินัยทางการเงินเพื่อเครดิตที่ดี ช่วยเสริมสถานะเครดิตของผู้กู้ได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือเพื่อ green loan เช่น โซล่ารูฟ หรือ รถพลังงานไฟฟ้า

เงินสดใจดีจะทำหน้าเสมือนผู้ช่วยทางการเงินส่วนตัว ที่ช่วยการวิเคราะห์ และวางแผนการเงินเพื่อเลือกใช้สินเชื่อให้เกิดประโยชน์และเหมาะสมที่สุดกับลูกค้า เพื่อช่วยให้เป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น ประกอบด้วยบริการหลัก 3 ส่วน คือ

  • วิเคราะห์สถานะทางการเงินของลูกค้าด้วยเครดิตบูโร และ DSR (ความสามารถในการผ่อนชำระ) ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญและแนะนำสินเชื่อที่เหมาะสมกับเครดิตของลูกค้ามากที่สุด
  • บริการสินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อรายย่อยซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการซื้อบ้าน ในกรณีที่สถานะทางการเงินยังไม่เป็นไปตามกำหนดของธนาคาร
  • การสร้างเครดิตผ่านการเช่าซื้อเพื่อสร้างประวัติการชำระเงินและเครดิตที่ดี เพื่อเป็นเจ้าของบ้านต่อไปในอนาคต

เงินสดใจดี ได้เริ่มทดลองให้บริการไปเมื่อปี 2566 ผลลัพธ์ที่ได้เป็นไปในทิศทางที่ดี สามารถช่วยให้คนเป็นเจ้าของที่พักอาศัยจากยอดที่ธนาคารปฏิเสธได้ราว 7-10% หรือคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 300 ล้านบาท และมีแนวโน้มของความสนใจมากขึ้น ซึ่งในปีนี้เราตั้งเป้าให้เงินสดใจดีช่วยให้คนเข้าถึงการมีบ้าน หรือลดยอดปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารได้อย่างน้อยที่ 10-15% ซึ่งก็จะสะท้อนโดยตรงไปถึงยอดขายบ้านของเสนาที่จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

“เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ให้ความสำคัญในการสนับสนุนให้ทุกคนเข้าถึงการเป็นเจ้าของที่พักอาศัยได้ง่ายขึ้น โดยเชื่อมั่นว่า “เงินสดใจดี” จะเป็นหนึ่งในบริการสำคัญที่จะให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของบ้านเสนาได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเครดิตการเงิน โดบปัจจุบันเงินสดใจดี มี 90 สาขา ใน 90 โครงการของเสนา ซึ่งเริ่มแรกทำเพื่อขายโครงการของเสนาก่อน เพื่อแก้ไขปัญหาช่วยให้คนที่มีรายได้น้อยและปานกลางเข้าถึงการสินเชื่อบ้านได้” ผศ.ดร.เกษรา กล่าวทิ้งท้าย