นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทในครึ่งปีแรกของปี 2564 ว่า บริษัทมีรายได้จากการขาย 1,401.69 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีรายได้จากการขาย 849.12 ล้านบาท คิดเป็น 65.08% โดยในไตรมาส 2/2564 บริษัททำรายได้รวม 522.29 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 51.99 ล้านบาท ส่งผลให้ผลประกอบการในรอบ 6 เดือน บริษัทมีกำไรสุทธิ 132.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และยังทำยอดขายในครึ่งปีแรกเป็นที่น่าพอใจ โดยมียอดขายกว่า 2,200 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทมีต้นทุนทางการเงินลดลงร้อยละ 47.58 โดยผลประกอบการในครึ่งปีแรกที่ออกมาน่าพึงพอใจ มาจากปัจจัยสนับสนุนด้านความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทโครงการแนวราบในระดับราคา 3-5 ล้านบาทที่อยู่ในระดับสูง และเอ็น.ซี มีการปรับตัวได้ดี มีการควบคุมเข้มเรื่องการบริหารต้นทุนในองค์กร มีระบบบริการออกมาดูแลลูกค้า อำนวยความสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยผนวกการนำนวัตกรรม Smart Eco, Smart Care มาใช้กับบ้านในโครงการของเอ็น.ซี  

นายสมนึก กล่าวต่อไปอีกว่า แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะยังคงส่งผลให้ต่อความมั่นใจของผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม บริษัทพร้อมเดินตามแผน เตรียมพัฒนาโครงการใหม่ระดับราคา 3-5 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพหลัก อาทิ โซนเหนือ และโซนตะวันออก ในไตรมาส 3 นี้ เพื่อเร่งหนุนรายได้ทั้งปีโตอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 3 จะเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท

“เอ็น.ซี ยังคงเดินหน้าตามแผนการเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ในปี 2564 ที่จำนวน 7 โครงการ มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท ด้วยการพัฒนาสินค้าทาวน์เฮ้าส์, บ้านแฝด, บ้านเดี่ยว ระดับราคา 3-5 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของตลาดบ้านแนวราบ โดยขยายทำเลเพิ่มครอบคลุมพื้นที่ 4 ทำเลศักยภาพ (โซนเหนือ, โซนตะวันตก, โซนใต้ และโซนตะวันออก ของกรุงเทพฯ และปริมณฑล) เพิ่มกำลังการผลิตบ้านด้วยระบบเทคโนโลยีการก่อสร้างทันสมัยขยายฐานลูกค้าใหม่ในกลุ่มตลาดบ้านแนวราบ ทำให้ เอ็น.ซี มีความพร้อมที่จะเดินตามแผน ในตลาดศักยภาพใหม่ๆ รุกต่อด้วยเป้ายอดขาย 3,500 ล้านบาท และรับรู้รายได้ปี 2564 ที่ 2,000 ล้านบาท” นายสมนึก กล่าวปิดท้าย