โฮมโปร เผยอานิสงค์ช้อปดีมีคืน-ภาคการท่องเที่ยวฟื้น ส่งผลประกอบการโตสวนกระแส พร้อมปลุกกำลังซื้อสินค้าเรื่องบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้ารับซัมเมอร์ เดินหน้าจัดงาน​โฮมโปร เอ็กซ์โป ครั้งที่ 34 วันที่ 18 – 26 มี.ค.นี้ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ขนสินค้าเรื่องบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้าลดแบบจัดเต็ม พร้อมเปิดตัว Home Solar บริการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์แบบครบวงจร คาดปีแรก โกยยอดขาย 40-50 ล้านบาท

นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดสินค้าเพื่อบ้านในไตรมาสแรกของปี 2566 ได้รับอานิสงค์จากโครงการช้อปดีมีคืน ซึ่งส่งผลให้ยอดซื้อโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 10-20% ต่อการซื้อ1 ครั้ง ประกอบกับกำลังซื้อที่กลับมาจากภาคท่องเที่ยวในทุกภูมิภาคทั่วประเทศฟื้นตัว ซึ่งสำหรับโฮมโปรคาดว่ารายได้รวมปีนี้จะเติบโตขึ้น 5% เทียบจากปีที่ผ่านมา ที่ทำรายได้รวมอยู่ที่ 69,389.43 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 6,217.09 ล้านบาท โดยในไตรมาสแรกที่ผ่านมาผลประกอบการเติบโตทะลุเป้าแบบส่วนกระแสเศรษฐกิจ  

สำหรับในปี 2566 บริษัทมีแผนเปิดสาขาเพิ่ม 10 สาขา แบ่งเป็นเมกาโฮม 8 สาขา และโฮมโปร 2 สาขา ด้วยงบลงทุนรวม 4,000-5,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีสาขาทั้งหมด 113 สาขา ทั้งในประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย

นายวีรพันธ์ ยังเผยอีกว่าเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขาย บริษัทได้จัดมหกรรมสินค้าเพื่อบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้า โฮมโปร เอ็กซ์โป ขึ้น ระหว่างวันที่ 18 ​- 26 มีนาคม 2566 ณ ฮอลล์ 9-10 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยครั้งนี้เป็นการจัดงานครั้งที่ 34 โดยขนสินค้าเรื่องบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้าลดสูงสุด 80% พร้อมจัดเต็มโปรโมชัน กับสินค้าแบรนด์ดัง ให้สิทธิพิเศษครบทุกแบรนด์

ทั้งนี้ ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป จากที่นิยมเดินทางมาหาเลือกซื้อของด้วยตนเอง ก็หันไปสั่งซื้อของทางออนไลน์มากขึ้น ประกอบการการแข่งขันในตลาดสำหรับการจัดงานมหกรรมสินค้าเพื่อบ้านรุนแรงมากขึ้น งานครั้งนี้จึงได้ลดพื้นที่จัดงานลง 50% อย่างไรก็ตาม งานโฮมโปร เอ็กซ์โป ยังคงเน้นความครบครับของสินค้า รวมถึงคุณภาพของสินค้าในราคาที่จับต้องได้ โดยตั้งเป้าหมายรายได้จากการจัดงานครั้งนี้ 300 ล้านบาท ซึ่งถึงแม้จะลดลงจากเดิมที่เคยทำได้ 400-500 ล้านบาท แต่ทางบริษัทได้มีการเพิ่มรูปแบบการจัดงานมหกรรมสินค้า โฮมโปร ซูเปอร์ เอ็กซ์โป ทุกสาขาพร้อมกันทั่วประเทศอีกปีละ 3 ครั้ง ซึ่งสามารถสร้างรายได้โดยเฉลี่ยถึงครั้งละ 1,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

นายวีรพันธ์ กล่าวอีกว่า โฮมโปรยังคงมุ่งมั่นเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการบริหารจัดการการใช้พลังงาน รวมถึงพัฒนาสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือการใช้พลังงานภายในบ้าน และเรื่องของการประหยัดพลังงาน ซึ่งกลายเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงของเจ้าของบ้านยุคใหม่ ซึ่งคนส่วนใหญ่เริ่มหันมาสนใจการใช้พลังงานสะอาด หรือโซลาร์เซลล์เป็นพลังงานทดแทนมากขึ้น โดยเฉพาะโซลาร์ รูฟ ที่ช่วยผลิตกระแสไฟฟ้านำมาใช้ภายในบ้านได้อย่างปลอดภัย และโฮมโปรเองเป็นเจ้าตลาดเรื่องบ้าน จึงเดินหน้าเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ Home Solar : ประหยัด คุ้มค่า อย่างยั่งยืน ในงาน โฮมโปร เอ็กซ์โป ครั้งนี้เป็นครั้งแรกด้วย

ด้านนายนิทัศน์ อรุณทิพย์ไพฑูรย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ก่อตั้งธุรกิจ Home Solar กล่าวว่า การให้บริการของ Home Solar จะเริ่มตั้งแต่การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ บริการตรวจสอบพื้นที่ที่จะทำการติดตั้ง การวางแผนและออกแบบการติดตั้ง การดูแลในขั้นตอนการขอใบอนุญาต พร้อมบริการติดตั้งโซล่า รูฟ และมีการการันตี รับประกัน ครบทุกการแก้ไขปัญหา โดยแพ็คเกจเริ่มต้นที่ขนาด 3.3 KW ราคา 146,426 บาท จนถึงแพ็คเกจสูงสุด ขนาด 9.90 KW ราคา 408,398 บาท ซึ่งในระยะแรกเน้นให้บริการกลุ่มลูกค้า End User ติดตั้งในระดับครัวเรือน พื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ซึ่งสำหรับภายในงาน โฮมโปร เอ็กซ์โป ได้ตั้งเป้ายอดขาย Home Solar จำนวน 20 หลังคาเรือน คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 2 ล้านบาท ขณะที่ตั้งเป้ายอดขายทั้งปีเอาไว้จำนวน 60 หลังคาเรือน คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 40-50 ล้านบาท นอกจากนั้นมีแผนแตกไลน์ไปสู่ธุริจพลังงานสะอาด โดยจัดตั้งเป็นบริษัทซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปีหน้าอีกด้วย