กรุงเทพฯ 26 มิถุนายน 2567 –บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ตอกย้ำความเชื่อมั่นบทบาทหน่วยงานสื่อสารและขนส่งหลักของชาติ และผู้ให้บริการขนส่งแบรนด์ไทยที่ดำเนินธุรกิจด้วย “คุณภาพ” พร้อมหนุนรองรับความต้องการขนส่งที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยมาตรฐานที่พร้อมส่งมอบให้กับทุกภาคส่วน การเพิ่มและรักษามาตรฐานด้านความรวดเร็ว แม่นยำ โดยเฉพาะ EMS ส่งด่วน ทั่วไทย ทั่วโลก ด้วยทรัพยากรที่มีศักยภาพเครือข่ายที่มีอยู่กว่า 50,000 แห่ง ซึ่งกระจายอยู่ในทุกพื้นที่ สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก และการไปรษณีย์ทั่วโลกกว่า 93 ประเทศ รวมทั้งตอกย้ำเป้าหมาย Zero Complain ด้วยการจัดการทุกปัญหาแบบเรียลไทม์ ให้บริการขนส่งสิ่งของหรือพัสดุโดยไม่จำกัดประเภท ระยะทาง สิ่งของที่มีรูปร่างพิเศษ
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ไปรษณีย์ไทยเป็นผู้ให้บริการขนส่งของไทย ที่ยังคงมุ่งสนองความต้องการคนไทยทั้งในเชิงสังคม เศรษฐกิจ และการเติบโตแบบยั่งยืน ซึ่งในตลาดสื่อสารและขนส่งยังคงมีการแข่งขันที่รุนแรง และมีปัจจัยท้าทายในการดำเนินธุรกิจหลายประเด็น โดยเฉพาะต้นทุนในการดำเนินธุรกิจจากราคาพลังงานที่มีความผันผวนการตอบสนองความรวดเร็วให้กับผู้ใช้บริการ การรักษาคุณภาพตั้งแต่ต้นทาง ปลายทาง และในทุกกระบวนการของบริการขนส่ง
เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานในตลาด และสะท้อนบทบาทหน่วยงานสื่อสารและขนส่งหลักของชาติที่พร้อมสนับสนุนทุกภาคส่วน ตลอดจนขยายระบบนิเวศธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์เน้นการใช้ “คุณภาพ” ในการแข่งขัน ปรับกลยุทธ์ เพื่อส่งมอบบริการที่ดีที่สุดกับคนไทยมาอย่างต่อเนื่องด้วย 5 มาตรฐานที่ครองใจ “ส่งด่วน ส่งได้ทุกอย่าง คุ้มค่า แม่นยำ ทุกพื้นที่” เพื่อรองรับทุกกลุ่มผู้ใช้บริการให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ ดังนี้
· เพิ่มและรักษามาตรฐานด้านความรวดเร็ว แม่นยำ โดยเฉพาะ “EMS” ซึ่งเป็นบริการส่งด่วนที่ได้รับความเชื่อมั่นและความนิยมสูงสุดของตลาด บริการส่งของไปต่างประเทศที่มีบริการให้เลือกหลากหลาย ตามความเหมาะสมของสิ่งของ ความรวดเร็วในการจัดส่ง และราคาที่ตรงใจครอบคลุมกว่า 93 ประเทศทั่วโลก สอดรับความต้องการผู้ใช้บริการในปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับระยะเวลาการจัดส่ง อีกทั้งยังนำจ่ายทุกวันไม่มีวันหยุด และยังการันตีความรวดเร็วการส่งสิ่งของในแต่ละประเภท เช่น ของควบคุมอุณหภูมิ ผลผลิตทางการเกษตรตามมาตรฐานที่วางไว้
· เพิ่มการรองรับปริมาณการขนส่ง ด้วยทรัพยากรที่มีศักยภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นบุรุษไปรษณีย์กว่า 25,000 คน บริการ Pick-Up Service รับฝากถึงบ้าน ซึ่งให้บริการในทุกพื้นที่ทั่วประเทศโดยไม่มีจำนวนขั้นต่ำและค่าบริการ
· เพิ่มเครือข่ายในการให้บริการ โดยปัจจุบันไปรษณีย์ไทยมีจุดให้บริการรวมกว่า 50,000 แห่ง ทั้งที่ทำการที่ดำเนินการโดยไปรษณีย์ไทย พันธมิตรเพื่อนพี่ไปรฯ ที่เป็นเอกชน ร้านธงฟ้า EMS Point ร้านค้ารายย่อย ฯลฯ ซึ่งกระจายอยู่ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ทำให้สะดวกต่อผู้ใช้บริการในการฝากส่งสิ่งของ และยังเป็นการเปิดโอกาสการกระจายรายได้ให้กลุ่มธุรกิจที่สนใจให้บริการเปิดจุดรับฝากอีกด้วย
· เพิ่มความแม่นยำ และเพิ่มคุณภาพการขนส่งเพื่อลดความเสียหายและตอกย้ำเป้าหมาย Zero Complain ผ่านการมอนิเตอร์ข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นและรีบดำเนินการแก้ไขแบบเรียลไทม์การเพิ่มช่องทางในการติดต่อบุรุษไปรษณีย์ผ่านเลขหมาย 1505 ให้กับผู้ใช้บริการในทุกพื้นที่ด้วยหมายเลขเดียว การมีระบบแคร์คอนโทรล (Care Control) ที่จะช่วยดูแลสิ่งของทุกประเภท ทุกขนาด และจำนวนให้คงสภาพดีตั้งแต่รับฝากจนถึงออกนำจ่ายทุกปลายทาง
· เพิ่มความเท่าเทียมในการให้บริการในตลาด กับผู้ใช้บริการทุกราย ทุกพื้นที่ ด้วยการขนส่งสิ่งของ หรือพัสดุโดยไม่จำกัดประเภท ระยะทาง สิ่งของที่มีรูปร่างพิเศษ หรือคิดค่าบริการเพิ่มเมื่อต้องนำจ่ายในพื้นที่ห่างไกล รวมถึงความร่วมมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ กลุ่มผู้ประกอบการออนไลน์ เพื่อสร้างทางเลือกการเลือกใช้บริการขนส่ง ตลอดจนรักษาต้นทุนให้กับผู้ประกอบการด้วยราคาที่เป็นธรรมให้สอดรับกันคุณภาพบริการขนส่งทุกประเภท