พฤกษา เผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2564 กวาดยอดขาย 6,940 ล้านบาท มีรายได้ 6,888 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 606 ล้านบาท คาดแนวโน้มไตรมาสสองยังไปได้ดี เดือนแรกโกยยอดขายได้แล้วกว่า 2,000 ล้านบาท เล็งปรับแผนเปิดโครงการเพิ่ม ด้านโรงพยาบาลวิมุต เปิดให้บริการแล้ว คาดปีนี้สร้างรายได้ 200-300 ล้านบาท

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาแรกของปี 2564 ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีมูลค่าการขายรวม 73,921 ล้านบาท เติบโตขึ้น 32% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งตลาดรวมยังคงสามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตลาดแนวราบเป็นหลัก โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวที่มีมูลค่ายอดขายรวม 27,363 ล้านบาท เติบโตขึ้น 51% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนทาวน์เฮาส์มีมูลค่าการขายรวม 17,725 ล้านบาท เติบโตขึ้น 16% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และคอนโดมิเนียมมีมูลค่าการขายรวม 28,025 ล้านบาท เติบโตขึ้น 31% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนในด้านของยอดโอนกรรมสิทธิ์ก็อยู่ในทิศทางที่ดีเช่นกัน โดยตลาดอสังหาริมทรัพย์มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาสแรกรวม 49,179 ล้านบาท เติบโตขึ้น 2% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวที่มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ 17,123 ล้านบาท เติบโตขึ้น 29% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนทาวน์เฮาส์มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ 8,662 ล้านบาท เติบโตลดลง 16% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และคอนโดมิเนียมมีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ 22,447 ล้านบาท เติบโตลดลง 3% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

สำหรับสินค้าคงเหลือในตลาด ในในไตรมาสแรก ปี 2564 พบว่ามีสินค้าคงเหลือ 214,148 ยูนิต ลดน้อยลง 0.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 โดยในกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวมีมูลค่าสินค้าคงเหลือ 53,573 ล้านบาท สูงขึ้น 6% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนทาวน์เฮาส์ ซึ่งมีการเปิดตัวกันมากในปีที่ผ่านมา ทำให้มีมูลค่าสินค้าคงเหลือ 70,976 ล้านบาท สูงขึ้น 16% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และคอนโดมิเนียมมีมูลค่าสินค้าคงเหลือ 86,562 ล้านบาท ลดลง 12% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากในปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ผู้ประกอบการแต่ละรายต่างเร่งระบายสินค้าเพื่อเคลียร์สต็อกกันให้ได้มากที่สุด

นายปิยะ กล่าวต่อไปถึงผลประกอบการของบริษัทต่อไปว่า “ในไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทสามารถทำยอดขายได้ 6,940 ล้านบาท เติบโต 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทำรายได้ที่ 6,888 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 7% และมีกำไรสุทธิ 606 ล้านบาท โดยสัดส่วนของยอดขายได้มาจากทาวน์เฮาส์ 51% บ้านเดี่ยว 29% คอนโดมิเนียม 20% และมีโครงการที่เปิดตัวในไตรมาส 1 ทั้งสิ้น 5 โครงการ มูลค่ารวม 1,915 ล้านบาท ประกอบด้วย ทาวน์เฮาส์ 4 โครงการ บ้านเดี่ยว 1 โครงการ และจากกลยุทธ์ในด้านการบริหารสินทรัพย์ ทำให้สามารถลดสินทรัพย์ของบริษัทจาก 87,322 ล้านบาท ในไตรมาสแรกปี 2563 ลงไปเหลือประมาณ 76,741 ล้านบาทในปัจจุบัน ทั้งนี้ ในด้านกลยุทธ์ด้านราคาและการขายของบริษัท ก็ส่งผลให้บริษัทสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จาก 7.6% ในปี 2563 มาอยู่ที่ 8.7% ในไตรมาสแรกของปี 2564 ส่วนยอดขายรอรับรู้รายได้ของบริษัทก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดี โดยปัจจุบันอยู่ที่ 21,988 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 19,716 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ 1,654 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว 618 ล้านบาท”  

นายปิยะ กล่าวอีกว่า สำหรับปีนี้ กลยุทธ์หลักของพฤกษาคือ ‘A Year of Value’ หรือปีแห่งคุณค่าสำหรับลูกค้า ได้แก่ การบริหารจัดการสินทรัพย์ การสร้างคุณค่าในโครงการ ตลอดจนการผนวกธุรกิจด้านสุขภาพเข้ามา โดยในต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้จัดแคมเปญ ‘PRUKSA FREE FEST มหกรรมแจกฟรี’ ซึ่งสามารถสร้างยอดขายได้ 2,112 ยูนิต มูลค่า  6,349 ล้านบาท เติบโตขึ้น 168% และในไตรมาสที่สองก็จะยังคงทำแคมเปญส่งเสริมการขายต่อเนื่องกับ ‘พฤกษา คุ้ม จบทุกดีล’ ที่เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดนช่วยเร่งยอดขายและยอดโอนสำหรับบ้านพร้อมอยู่  ซึ่งระยะเวลาประมาณ 1 เดือน สามารถสร้างยอดขายไปได้ 1,058 ยูนิต มูลค่า 2,155 ล้านบาท

“สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ในเดือนแรกคือเดือนเมษายน เราทำยอดขายได้ 2,155 ล้านบาท ยอดโอนอีกประมาณ 1,800 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่น่าพอใจ หากเทียบกับปีที่ผ่านมาซึ่งทั้งไตรมาส 2 มียอดขายที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยในไตรมาส 2 ของปีนี้ คาดว่าจะเปิดโครงการใหม่เพิ่ม จากแผนเดิมที่จะเปิด 5 โครงการ เป็น 7-10 โครงการ มูลค่ารวม 5,000-7,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 2 โครงการ บ้านเดี่ยว 2 โครงการ และทาวน์เฮาส์ 3-6 โครงการ ระดับราคาจะอยู่ที่ 2-5 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 3 และ 4 สถานการณ์น่าก็น่าจะดีขึ้น จากที่มีการฉีดวัคซีนภายในประเทศ เราจึงยังคงแผนเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ตามเดิมที่ 29 โครงการ มูลค่ารวม 26,630 ล้านบาท”

“ด้านแผนการดำเนินงานในช่วงปีที่เหลือ พฤกษาได้มีการศึกษาเทรนด์ของโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และเร็วขึ้นกว่าที่เคย ในฐานะผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย จึงใช้ความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย ในการเตรียมความพร้อมให้กับผู้บริโภคสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกล่วงหน้า โดยจับ 3 แกนหลักของเทรนด์โลกที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้คนในวันนี้และอนาคต ได้แก่ (1) เทรนด์การใส่ใจด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Health & Wellness Redefined) โดยจะดึงความเชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพจากโรงพยาบาลวิมุตเข้ามาเติมเต็มในส่วนนี้ ใส่ใจดูแลสุขภาพของลูกบ้านพฤกษาได้อย่างครบวงจร (2) เทรนด์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป (Lifestyle Disruption) ยกตัวอย่างเช่น แนวโน้มการทำงานจากบ้านที่เพิ่มสูงขึ้น การให้ความสำคัญกับการใช้พื้นที่ในบ้าน การใช้เทคโนโลยีเกี่ยวกับการเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ หรือ Internet of Things (IoT) ผนวกใช้ในชีวิตประจำวัน และ (3) เทรนด์รักษ์โลกและการสร้างความยั่งยืน เพราะพฤกษาเชื่อว่าการมีบ้านเป็นการลงทุนทั้งชีวิต ไม่ใช่แค่เพื่อการใช้ชีวิตในวันนี้ แต่ต้องถูกคิดเพื่อชีวิตในวันพรุ่งนี้ด้วย ซึ่งเป็นที่มาของทิศทางในการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนไปของแบรนด์ ภายใต้แนวคิด พฤกษา ใส่ใจเพื่อทั้งชีวิต ‘Tomorrow. Reimagined.’ ซึ่งถือเป็นการให้คำมั่นสัญญาว่าพฤกษาไม่หยุดที่จะคิดสร้างสรรค์ พัฒนาสินค้าและบริการเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตของลูกค้าทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า” นายปิยะ กล่าว

ด้านนพ.กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุตโฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า “โรงพยาบาลวิมุตได้เปิดให้บริการแล้วเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยดำเนินงานภายใต้แนวคิด ‘อีกระดับของการรักษาด้วยความใส่ใจ’ ซึ่งสำหรับโรงพยาบาลวิมุต ตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธิน ใกล้สี่แยกสะพานควาย ตัวอาคารสูง 18 ชั้น มีอาคารจอดรถชั้นใต้ดิน 4 ชั้น เป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ สามารถรองรับผู้ป่วยในได้ 236 เตียง ซึ่งเบื้องต้นเปิดให้บริการ 100 เตียง และเป็นโรงพยาบาลที่เป็นฐานสำหรับคนไข้ที่เป็นโรคเฉียบพลัน รุนแรง และต้องรับการรักษาที่ซับซ้อน นอกจากนั้นก็จะรองรับกลุ่มโรคเรื้อรัง และผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตามหลังเปิดให้บริการ มีกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการรวมถึงกลุ่มแพทย์ที่เข้ามารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างคับคั่ง ซึ่งทางโรงพยาบาลวิมุตก็ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถลงทะเบียนรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีแผนดึงกลุ่มลูกค้าพฤกษาเข้ามาใช้บริการในโรงพยาบาลมากขึ้น โดยมอบสิทธิพิเศษเฉพาะลูกบ้านในโครงการพฤกษา อาทิ ส่วนลดค่ายาและค่าห้อง ส่วนลดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ให้คำปรึกษาแพทย์ผ่านออนไลน์ (Telemedicine) บริการรถพยาบาลฉุกเฉินในระยะทางที่กำหนด โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เป็นต้น และทางโรงพยาบาลยังได้จัดแพ็กเกจตรวจสุขภาพในราคาพิเศษ 999 บาท สำหรับประชาชนทั่วไป ซึ่งมีรายการตรวจที่หลากหลาย สามารถเลือกแพ็คเกจที่เหมาะกับความต้องการของตัวเอง โดยลูกค้าพฤกษาที่ต้องการรับสิทธิ์ และผู้สนใจแพ็กเกจตรวจสุขภาพ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม และลงทะเบียนผ่าน www.vimut.com  หรือสอบถามโทร. 0-2079-0000

ทั้งนี้ โรงพยาบาลวิมุตมีแผนระยะยาวที่ต้องการสร้าง Ecosystem หรือสภาพของการสร้างสังคมสุขภาพที่ดีของคนไทย โดยจะทำให้คนในชุมชนระแวกใกล้เคียงโรงพยาบาล และใกล้เคียงโครงการพฤกษา สามารถเข้าถึงศูนย์สุขภาพ อาทิ คลินิก ศูนย์กายภาพ ศูนย์ดูแลและบริบาลผู้สูงอายุ รวมทั้งการให้บริการดูแลสุขภาพถึงบ้าน (Home Health Care) ในโครงการพฤกษาได้ง่ายขึ้น เพื่อมุ่งสร้างสรรค์และยกระดับชุมชนน่าอยู่ที่ให้ความใส่ใจในด้านสุขภาพ พร้อมตอบสนองการใช้ชีวิตของลูกค้าอย่างครบวงจร โดยมีโรงพยาบาลวิมุต เป็นศูนย์กลางการรักษาระดับสูงและมีหน่วยบริการย่อยคือ ศูนย์สุขภาพ (Health Center) กระจายสู่ชุมชนต่างๆ เพื่อการเข้าถึงบริการที่ใกล้บ้านมากขึ้น

“สำหรับแผนงานของโรงพยาบวิมุต เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ โดยมีการเปิดโรงพยาบาลวิมุตเป็นจุดแรก ในส่วนของคลินิกบ้านหมอวิมุต ตามแผนเดิมในปี 2563 คาดว่าจะมีการขยายตัวปีละ 2 แห่ง แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 พฤติกรรมของผู้บริโภค รวมทั้งความพร้อมของอาคารสถานที่ในการดูแลคนในชุมชน ก็จะปรับรูปแบบจากเดิมซึ่งเป็นคลินิกที่ดูแลโรคเฉพาะหน้าเป็นหลัก เป็นศูนย์สุขภาพ (Health Center) ซึ่งโครงการแรกที่จะเปิดให้บริการในปี 2565 คือที่สุขาภิบาล 2 จากนั้นคงต้องดูสถานการณ์แล้วค่อยพิจารณาวางแผนงานต่อไป ซึ่งหากพัฒนาการของสังคมดีขึ้น ก็จะมีโครงการรูปแบบนี้เกิดขึ้นปีละ 1-2 แห่ง ทั้งนี้ สำหรับรายได้ของบริษัทที่มาจากบริการด้านสุขภาพ ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 200-300 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่ 300 ล้านบาท ซึ่งการปรับเป้าลดลง เป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19” นพ.กฤตวิทย์ กล่าวทิ้งท้าย