“แกรนด์ แอสเสทฯ” เผยธุรกิจโรงแรมส่งสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน อัตราเข้าพักพุ่งทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ร้านอาหาร จัดเลี้ยง กรุ๊ปทัวร์ต่างชาติ คึกคัก คาดการณ์รายได้โรงแรมปีนี้เติบโตถึง 207% ด้านธุรกิจอสังหาฯ เดือนกรกฎาคมนี้เตรียมโอนกรรมสิทธิ์คอนโดร่วมทุน “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” มียอดขายรอรับรู้รายได้แล้ว 2,500 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ วิลล่าริมชายหาดแหลมแม่พิมพ์ ในรูปแบบใหม่ภายใต้แนวคิดเวลเนส เรสซิเดนซ์

นายวิทวัส วิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจโรงแรมของบริษัทเริ่มมีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน หลังการระบาดของโควิด-19 ลดลงต่อเนื่อง และที่สำคัญคือนโยบายเปิดประเทศ ที่มีผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทย 5 เดือนแรกของปี มีจำนวน 1,336,068 คน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 ที่มีจำนวน 34,753 คน โดยเดือนพฤษภาคมซึ่งรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาถึง 532,177 คน  ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรม

“ธุรกิจโรงแรมของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก คาดการณ์รายได้โรงแรมปี 2565 จะเติบโตขึ้นจากปีก่อนถึง 207% โดยมีอัตราการเข้าพักเพิ่มสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด คาดว่าอัตราเข้าพักของปีนี้จะอยู่ในระดับ 60% เทียบกับปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 15.7% โดยโรงแรมในกรุงเทพของบริษัทซึ่งมีจำนวน 3 แห่ง ตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ ทำให้อัตราเข้าพักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉลี่ย 5 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 45% นอกจากนี้ ส่วนของห้องอาหาร งานประชุม สัมมนา งานแต่งงาน จัดเลี้ยง รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบกรุ๊ปทัวร์ ยังกลับมาคึกคักอีกด้วย ขณะที่โรงแรมในต่างจังหวัดทั้งหัวหินและปราณบุรี ยังได้รับความนิยมจากคนไทยที่ท่องเที่ยวในประเทศอย่างต่อเนื่อง มีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 5 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 53% ในครึ่งปีหลังเชื่อมั่นว่าจะเพิ่มขึ้นอีก ทั้งจากนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเติม”

ปีนี้ แกรนด์ แอสเสทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตแบบก้าวกระโดดที่ 5,600 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากธุรกิจโรงแรม 1,800 ล้านบาท ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 1,000 ล้านบาท และโครงการร่วมทุน 2,800 ล้านบาทโดยในเดือนกรกฎาคมนี้ บริษัทจะเริ่มดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” โครงการคอนโดมิเนียมร่วมทุนกับ ซูมิโตโม ฟอเรสทรี ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 2,500 ล้านบาท และหลังจากการเปิดประเทศ ยังคาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่จะเริ่มกลับเข้ามาอีกด้วย

นอกจากนี้ ในไตรมาส 3 บริษัทยังจะเปิดตัวโครงการใหม่ “อมาธารา เรสซิเดนซ์ ระยอง” บนแหลมแม่พิมพ์ จังหวัดระยอง พื้นที่ 37 ไร่  มูลค่าโครงการ 2,656 ล้านบาท เป็นวิลล่าหรูบนเนินเขา พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง จำนวน 61 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 33 ล้านบาท ภายใต้แนวคิดเวลเนส เรสซิเดนซ์ ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับการพักผ่อนทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งที่ผ่านมาอุปสงค์วิลล่าตากอากาศเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อคนไทยนิยมซื้อบ้านหลังที่สองในทำเลที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนกันมากขึ้น บวกกับผลของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่จะทำให้ผู้ประกอบธุรกิจขยายกิจการกันเข้ามามากขึ้น ส่งผลให้ภูมิภาคนี้มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี  ด้านธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยาง ปัจจุบันก่อสร้างโรงงานแล้วเสร็จ 1 อาคาร มี 8 สาย การผลิต ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จครบทั้ง 8 สายการผลิตภายในปีนี้