ธอส.เผยตลาดบ้านมือสองโต เหตุจากวิกฤตโควิด-19 และสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจส่งผลลูกค้ามีกำลังซื้อลดลง เผยจัดทำโครงการรีโนเวทบ้านมือสองก่อนนำออกจำหน่าย หรือทุบทิ้งเพื่อขายที่ดินเปล่า ปัจจุบันนำร่องแล้ว 10 รายการ

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า สำหรับตลาดบ้านมือสองคาดว่าจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ด้วยวิกฤตโควิด-19 ในช่วงเวลาที่ผ่านมา รวมถึงสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งส่งผลให้ลูกค้ามีกำลังซื้อที่ลดลง ทำให้หันมาเลือกซื้อบ้านมือสองในทำเลที่ต้องการ ขณะที่ราคาต่ำกว่าทรัพย์มือหนึ่ง

“สำหรับตลาดบ้านมือสองในมุมมองของผมจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจหรือวิกฤตโควิด-19 ขณะที่ลูกค้ามีกำลังซื้อที่ลดลง ซึ่งแทนที่ลูกค้าจะซื้อทรัพย์มือหนึ่ง ก็จะหันมาเลือกทรัพย์มือสอง และจากนี้ไปจะทั้งธุรกิจรับออกแบบ รับรีโนเวท จะเกิดขึ้นมากมายต่อเนื่องจากธุรกิจบ้านมือสอง โดยข้อดีของทรัพย์มือสองคืออยู่ในทำเลที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ในขณะที่ราคาถูกกว่าบ้านมือหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบ้านมือสองดีกว่าบ้านมือหนึ่ง เพราะต้องแลกด้วยการที่ไม่ได้เป็นหมู่บ้านจัดสรรด้วยเช่นกัน” นายฉัตรชัย กล่าว

นายฉัตรชัย ยังกล่าวต่อไปอีกว่า เดิมการจำหน่ายทรัพย์ NPA หรือทรัพย์มือสองของธอส. จะจำหน่ายตามสภาพ ซึ่งทรัพย์บางรายการอาจต้องมีการรีโนเวทก่อนจึงจะอยู่อาศัยได้ และบางรายการอยู่ในสภาพที่ควรทุบทิ้งเพื่อขายที่ดินเปล่า ธอส.จึงได้มีการนำร่องจัดการทรัพย์ในสองลักษณะนี้ก่อนจำหน่ายไปแล้ว 10 รายการ

“ปัจจุบัน ธอส.ได้แบ่งทรัพย์มือสองออกเป็น 7 เกรด และได้เริ่มจัดทำโครงการรีโนเวทบ้านมือสองก่อนนำออกจำหน่าย รวมทั้งทุบทิ้งเพื่อจำหน่ายที่ดินเปล่า ซึ่งถือเป็นธุรกิจใหม่ของธนาคาร โดยจะใช้งบประมาณในการรีโนเวทไม่เกิน 300,000 บาทต่อหนึ่งทรัพย์รายการ หลักๆ คือทำห้องน้ำ ทำสี เปลี่ยนกลอนประตู เปลี่ยนวอลเปเปอร์ และจะใช้ระยะเวลาในการรีโนเวทประมาณ 3-6 เดือน โดยในปี 2565 ได้ดำเนินการรีโนเวททรัพย์ไปแล้วจำนวน 10 รายการ และเริ่มนำออกจำหน่ายตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 ซึ่งทรัพย์ที่มีการนำร่องทำการรีโนเวท 10 รายการ ตอนนี้มีลูกค้าโอนกรรมสิทธิ์และเข้าอยู่แล้ว 3-4 ราย” นายฉัตรชัย กล่าว

นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ปัจจุบันธนาคารมีทรัพย์ NPA อยู่ในมือมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งจากโมเดลนำร่อง 10 รายการ ทำให้เห็นแล้วว่าการรีโนเวททรัพย์หรือทุบทิ้งแล้วถมที่ดินขาย เป็นโมเดลที่นำมาใช้จริงได้ ทั้งนี้ เดิม ธอส. มีฝ่ายที่ดูแลการขายทรัพย์มือสองอยู่แล้ว แต่จะปรับการทำงานบางส่วนในหน่วยงานให้สอดรับกับเรื่องนี้ จากเดิมเป็นส่วนสำรวจจะปรับให้เป็นส่วนสำรวจและรีโนเวท ซึ่งในฝั่งของฝ่ายที่ดูแลทรัพย์ NPA จากนี้ไปก็จะรู้เลยว่าปีนี้ควรจะซื้อทรัพย์ตัวไหนเข้า ซื้อเข้ามาแล้วจะอยู่กับธนาคารนานเท่าใด และจะขายด้วยวิธีใด ขายตามสภาพ รีโนเวท หรือทุบทิ้งแล้วถมที่ดินขาย  

“การขายบ้านมือสองของธนาคารไม่ได้มุ่งหวังผลกำไรจากการขายเป็นหลัก หากแต่ต้องการลดจำนวนการถือครองบ้านมือสองของธนาคาร เพื่อลดการกันสำรองของธนาคารให้ลดลง” นายฉัตรชัย กล่าวทิ้งท้าย