เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง ชี้พบสัญญาณบวกเศรษฐกิจไทยปี 66 ประกาศโตต่อเนื่อง กางแผนผุด 6 โครงการใหม่ เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าตลาดบ้านแนวราบ 3-5 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ายอดขาย 5,500 บ้านบาท และยอดรับรู้รายได้ ที่ 3,200 ล้านบาท
นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในปี 2566 ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังมีทิศทางของการฟื้นตัวกลับมาดีขึ้น ถึงแม้จะมีปัญหาด้านเงินเฟ้อ แต่ก็มีปัจจัยช่วยหนุนให้ขับเคลื่อนไปได้ โดยหลายฝ่ายมีการคาดการณ์ว่า GDP จะเติบโต 3-4% ด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็จะได้รับอานิสงค์จากภาคเศรษฐกิจตามไปด้วย โดยคาดว่าในปีนี้จะเติบโตขึ้น 5-10% โดยจะเห็นได้จากการที่ผู้ประกอบการที่มีแผนเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง
ทั้งนี้ สำหรับ เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง มีผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2563-2565 บริษัทได้มีการปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน อัตราหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับต่ำ และมีที่ดินสำหรับรองรับการพัฒนา ขณะที่ก็มีความสามารถทางการเงินในการซื้อที่ดินแปลงใหม่เพื่อรองรับการพัฒนาเพิ่มได้ ด้วยจุดแข็งดังกล่าวทำให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 บริษัทสามารถทำยอดขาย ได้ถึง 4,442 ล้านบาท ทะลุจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 3,500 ล้านบาท ขณะที่ 9 เดือนของปี 2565 บริษัทมียอดรับรู้รายได้กว่า 1,900 ล้านบาท ซึ่งคาดว่ายอดรับรู้รายได้ในปี 2565 จะทะลุเป้าหมายยอดรับรู้รายได้ที่ตั้งเอาไว้ 2,000 ล้านบาทเช่นกัน
นายสมนึก กล่าวอีกว่า สำหรับในปี 2566 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ ซึ่งเป็นโครงการแนวราบทั้งหมด 6 โครงการ มูลค่ารวม 4,900 ล้านบาท โดยเน้นเจาะตลาดกลุ่มบ้านแนวราบระดับราคา 3-5 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีฐานลูกค้าเป็นจำนวนมาก เนื่องจากพัฒนาโครงการแนวราบในระดับราคานี้มากว่า 30 ปี ประกอบกับเป็นที่กลุ่มที่อยู่อาศัยที่ตลาดมีความต้องการสูง โดยโครงการแนวราบในระดับราคา 3-5 ล้านบาทของบริษัทนับเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ โซนเหนือ และมีการขยายทำเลพัฒนาโครงการแนวราบในระดับราคาดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในพื้นที่กรุงเทพฯ โซนตะวันตก รวมทั้งพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
นายสมนึก กล่าวต่อว่า สำหรับปี 2566 เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง พร้อมเร่งขับเคลื่อนทุกกลไก ผ่าน 3 กลยุทธ์ ได้แก่
1.ชูกลยุทธ์ Care เอ็น.ซี ให้ความสำคัญ กับลูกค้า คิดผ่านกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการปัจจุบัน และส่งมอบถึงอนาคตให้กับกลุ่มครอบครัวลูกค้าฐานเก่าและลูกค้าใหม่ ด้วยการเพิ่มนวัตกรรมบริการให้กับผู้อยู่อาศัย ให้ทุกมิติของความใส่ใจดูแลการบริการผ่านข้อมูลเชิงลึก ด้วยความพร้อมแบบ Full Service อาทิ ผ่าน Home Smile พันธมิตรธุรกิจ SCG Home ให้คำปรึกษาแนะนำ บริการต่อเติมบ้านครบวงจร Ready to Plug in Space อีกทั้งให้คำแนะนำผู้เชี่ยวชาญเรื่องบ้านผ่านศูนย์ All From Home Center เป็นศูนย์กลางทุกบริการเรื่องบ้าน ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย ภายใต้การบริการผ่าน Nc Q Prompt พร้อมยังมีการดูแลห่วงใยเรื่องความปลอดภัยและสุขภาพของผู้สูงวัยในบ้าน ด้วย Do Care Protect
2.กลยุทธ์ Creative & Innovation สร้างกลไก ในด้านการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ผนวกเทคโนโลยีบ้านเพื่อความสุข ด้วยนวัตกรรมบ้านให้มีดีไซน์เชื่อมโยงเทคโนโลยี เข้ากับบ้าน ซึ่งเอ็น.ซี เดินตาม Product Strategy คอนเซ็ปต์ NCXT ( NC Cross Innovation & Home Technology ช่วยให้ผู้อยู่อาศัย มีความสะดวกสบาย ปลอดภัย และมีสุขภาพที่ดีในโครงการ ผนวกทุก Function การใช้สอยในบ้านและนอกบ้าน ต้องมีเอกลักษณ์ ความเฉพาะด้านดีไซน์ ตอบรับการอยู่อาศัยจริงอย่างมี Uniqueness เพื่อการตอบโจทย์ในไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิต ทุกครอบครัว ทุก A///gen ซึ่งสังคมไทยในปัจจุบัน เป็นช่วงก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) การให้บริการสำหรับผู้สูงอายุจะมีความสำคัญเพิ่มขึ้น
3.กลยุทธ์ Collaboration เพื่อการขับเคลื่อนธุรกิจให้รองรับความพร้อมรอบด้านให้เติบโต ต้องมีความร่วมมือ เพื่อบรรลุเป้าหมายของบริษัท โดยมีการศึกษาขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ ด้วยการผนวกพันธมิตร เพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าบริการและผลิตภัณฑ์ ในธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น และเป็นการต่อยอดธุรกิจใหม่ ควบคู่ไปด้วยกัน เพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุด ทั้งสินค้าและบริการให้กับลูกค้าแบรนด์ เอ็น.ซี ถือเป็นกลยุทธ์ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อมอบ Value สิ่งดีๆ ให้กับลูกค้า และเพิ่มศักยภาพด้านทิศทางการทำการตลาดตอบรับเทรนด์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโรดแมปสำคัญ ของปีนี้
“ปี 2566 เอ็น.ซี สร้างความท้าทาย ด้วยการตั้งเป้ายอดขาย ที่ 5,500 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ ที่ 3,200 ล้าน และมีความพร้อมในการรุกเปิดโครงการแนวราบเพิ่ม 6 โครงการ มูลค่ารวม 4,900 ล้านบาท โดยในปี 2566 ถือเป็นปี ที เอ็น.ซี มีความแข็งแกร่งเติบโตเพิ่มขึ้น และพร้อมขยายโครงการได้อย่างเต็มที่ และในต้นปี เอ็น.ซี มีแคมเปญใหญ่ภายใต้ชื่อ NC We Love We Care ซื้อบ้านเอ็น.ซี ได้รับเงินออม และคาดว่าแคมเปญนี้ จะทำยอดขายได้ถึง 850 ล้านบาท ไตรมาสแรกนี้” นายสมนึก กล่าวปิดท้าย