บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) “TOA” ผู้นำตลาดสีทาอาคาร เคมีภัณฑ์ก่อสร้างครบวงจร ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2567 พุ่งสูงถึง 804 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ พร้อมเดินหน้าเติบโตสู่ปีที่ 60 ด้วยกลยุทธ์สร้างความยั่งยืนในทุกมิติ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจ ร่วมกับการบริหารจัดการด้านต้นทุนที่ช่วยหนุนในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง

นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท  ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยถึง ผลการดำเนินงานของ TOA ในไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทฯ ทำกำไรพุ่งสูงถึง 804 ล้านบาท โดยเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 27% ทั้งนี้เป็นผลมาจากความสำเร็จด้านการวิจัยและพัฒนา ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการด้านวัตถุดิบ และเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตที่ช่วยเพิ่มผลผลิตที่ดีและช่วยลดต้นทุนการผลิต

 อย่างไรก็ตาม ยอดขายในไตรมาส 1 ปี 2567 ของบริษัทฯ คิดเป็น 5,428 ล้านบาท ลดลง 4% เป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโดยรวมภายในประเทศและภาคอสังหาริมทรัพย์ อันเนื่องมาจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่ในระดับสูง และการอนุมัติงบประมาณรัฐบาลที่ล่าช้า ล้วนส่งผลต่อสภาพคล่องและกำลังซื้อที่ลดลง นอกจากนี้การเปิดโครงการใหม่ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ยังมีแนวโน้มชะลอตัวมาตั้งแต่ปลายปีก่อน  ส่งผลต่อดีมานด์ความต้องการใช้สีและวัสดุก่อสร้างชะลอลงตามด้วย

ทั้งนี้คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจภายในประเทศจะค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ  ภายหลังที่งบประมาณภาครัฐที่ผ่านการอนุมัติแล้ว จะมีการทยอยเบิกจ่ายจะช่วยเร่งกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ช่วยเพิ่มสภาพคล่อง และการจ้างงานภายในประเทศ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มปรับตัวลดลงในช่วงไตรมาส 3 ยังจะเป็นอานิสงค์เชิงบวกต่อเศรษฐกิจอีกด้วย

“บริษัทฯ มุ่งบูรณาการการดำเนินธุรกิจตามหลักความยั่งยืนของ ESG ที่ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายในทุกสภาวการณ์  เพื่อรักษาความเป็นผู้นำและความได้เปรียบในการแข่งขัน อันเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของ TOA ให้เติบโต และสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะยาว” นายจตุภัทร์ กล่าวทิ้งท้าย