A5 เผยผลประกอบการไตรมาส 3/2566 ทำแฮตทริก ออลไทม์ไฮ รายได้รวม 427.53 ล้านบาท กำไรสุทธิ 178.25 ล้านบาท โต 419.7% มองทิศทาง Q4/66 โตดี สัญญาณตลาดอสังหาฯระดับบนยังบวก เดินหน้าลุยต่อโค้งสุดท้าย เตรียมเปิดโครงการแนวราบ “วนา ราชพฤกษ์-เวสต์วิลล์” มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท ตุนแบ็คล็อกรอรับรู้กว่า 3,300 ล้านบาท ทยอยรับรู้ต่อเนื่องถึงปี 2567 มั่นใจรายได้โตตามเป้า 1,600 ล้านบาท

นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/2566 โดยมีรายได้รวม 427.53  ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 76.25 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 461% และมีกำไรสุทธิ 178.25  ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 4.35 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 419.7% ทำสถิติสูงสุด (All Time High) ติดต่อกัน 3 ไตรมาส

ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 1,095.82 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 627.63 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 75% และมีกำไรสุทธิ 347.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 74.62 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 366%  เป็นผลจากยอดขายและยอดรับรู้รายได้โครงการ “แซงค์ รอยัล กรุงเทพกรีฑา” ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก โครงการ ต้นสน วัน เรสซิเดนซ์ เข้ามาเพิ่มเติม

แซงค์ รอยัล กรุงเทพกรีฑา

สำหรับทิศทางธุรกิจไตรมาส 4/2566 แนวโน้มเติบโตดี เตรียมเปิดโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ “วนา ราชพฤกษ์ – เวสต์วิลล์” ราคา 25-50 ล้านบาท บนพื้นที่โครงการประมาณ 17 ไร่ จำนวน 43 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการประมาณ 1,700 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพใจกลางราชพฤกษ์ ติด 2 ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ The Crystal SB ราชพฤกษ์ และโครงการห้างสรรพสินค้าเตรียมเปิดใหม่ Central Westville โดยตั้งเป้ายอดขายภายในปีนี้ไว้ที่ประมาณ 200 ล้านบาท

ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอน ณ วันที่ 30 กันยายน 2566  จำนวน 3,300 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นโครงการแนวราบ จำนวน 2,000 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการ “แซงค์ รอยัล กรุงเทพกรีฑา”, “บ้านรชยา ประชาสันติ จ.อุดรธานี” และ “บ้านรชยา เอกมันตรา จ.อุดรธานี” และ โครงการแนวสูง  “ต้นสน วัน เรสซิเดนซ์” จำนวน 1,300 ล้านบาท โดยเริ่มทยอยรับรู้ในช่วงปลายปีนี้ถึงปี 2567

ต้นสน วัน เรสซิเดนซ์

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือของปีนี้ การดำเนินธุรกิจยังคงเป็นไปด้วยความระมัดระวัง ท่ามกลางความท้าทายจากความผันผวนของสภาวะเศรษฐกิจ โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนที่ดิน และค่าก่อสร้างให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไรและผลักดันให้รายได้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1,600 ล้านบาท