ASW โชว์ผลงาน Q1/68 กวาดยอดขาย 8,320 ล้านบาท เติบโต (QoQ) 75% และคิดเป็น 43% ของเป้ายอดขายทั้งปี หลังอัตราดอกเบี้ยลด-ท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง หนุนยอดจองคอนโด-วิลล่าหรูภูเก็ตกระแสดีรับไฮซีซั่น คาดเหตุการณ์แผ่นดินไหวไม่กระทบผลการดำเนินงาน Q2/2568 เหตุพอร์ตที่อยู่อาศัย 90% เป็นโครงการบ้านจัดสรร-คอนโด 8 ชั้น รวมถึงโครงการสร้างเสร็จใหม่ทั้งหมดในปีนี้เป็นคอนโด 8 ชั้น และแบ็คล็อกกว่า 40% อยู่ในภูเก็ต ยืนยันทุกโครงการในพอร์ตปลอดภัย โครงสร้างแข็งแรงตามมาตรฐานวิศวกรรม หลังส่งทีมวิศวกร-ผู้เชี่ยวชาญภายนอกเข้าตรวจสอบทั้งโครงการที่สร้างเสร็จแล้วและอยู่ระหว่างก่อสร้าง ประเมินตลาดบ้านจัดสรร-คอนโด 8 ชั้น ยังได้รับอานิสงส์ปลดล็อก LTV เชื่อมั่นยอดขายทั้งปีเป็นไปตามเป้า 19,500 ล้านบาท

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW กล่าวว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค.-มี.ค. 2568) บริษัทมียอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรทั้งหมด 8,320 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 33% (YoY) โดยยอดขายดังกล่าวคิดเป็น 43% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปี ซึ่งตั้งไว้ที่ 19,500 ล้านบาท

โครงการที่มียอดขายโดดเด่นใน Q1/2568 คือกลุ่มโครงการ Leisure Residences ในภูเก็ต ภายใต้การพัฒนาของบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE บริษัทย่อยในเครือ ที่ทยอยเปิดตัวในช่วงไฮซีซั่นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2567 ต่อเนื่องถึงต้นปีนี้ ได้แก่ โครงการเดอะ คาตาเบลโล บนทำเลใหม่ย่านกะตะ มูลค่า 5,500 ล้านบาท โครงการอะดอร่า ราไวย์ มูลค่า 1,400 ล้านบาท ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยทั้ง 2 โครงการมียอดจองแล้วกว่า 50% และโครงการเดอะ ไทเทิล วิลล่า เอสเตลลา ในยาง วิลล่าระดับลักชัวรีโครงการแรกของแบรนด์ THE TITLE มูลค่า 500 ล้านบาท สร้างปรากฏการณ์ด้วยยอดขายถึง 70% หลังเปิดตัวเพียง 1 สัปดาห์ ขณะที่โครงการที่เปิดใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลอย่างโครงการเคฟ เพลย์กราวด์ ตรงข้าม รร.บดินทรเดชาฯ มูลค่า 1,600 ล้านบาท และโครงการแอทโมซ เดอ โซล ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีทิพวัล มูลค่า 1,700 ล้านบาท ก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีและมีส่วนสำคัญในการผลักดันภาพรวมยอดขายเช่นเดียวกัน

“แม้ช่วงต้นไตรมาส ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะได้รับแรงกดดันจากภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง แต่หลังปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ทำให้สถาบันการเงินต่างๆ ทยอยลดดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยตาม จึงเป็นจังหวะที่ดีของคนที่มีดีมานด์และพร้อมจะซื้ออยู่แล้วให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกัน ตลาดภูเก็ต ได้รับอานิสงส์จากการท่องเที่ยวไทยที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยปี 2567 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวถึง 1.67 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 34% จากปีก่อน โดยเฉพาะภูเก็ตที่เป็น World Destination มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาทุกปี เราจึงใช้โอกาสช่วงไฮซีซั่นเปิดตัวโครงการใหม่ ซึ่งบริษัทย่อยในเครืออย่าง TITLE ก็มีความเชี่ยวชาญในภูเก็ต และได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าต่างชาติอยู่แล้ว ทำให้โครงการ Leisure Residences ได้รับการตอบรับที่ดี และเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่ช่วยผลักดันยอดขายของ ASW ในไตรมาสนี้” นายกรมเชษฐ์ กล่าว

นายกรมเชษฐ์ กล่าวอีกว่า สำหรับไตรมาส 2/2568 นั้น บริษัทประเมินว่าอาจไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมามากนัก เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบในระยะสั้นต่อตลาดคอนโดมิเนียมแบบ High-rise เป็นหลัก ขณะที่พอร์ตฟอลิโอกว่า 90% ของบริษัท เป็นโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมแบบ Low-rise หรือคอนโดมิเนียม 8 ชั้น ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ นอกจากนี้ ยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ของบริษัทกว่า 40% มาจากกลุ่มโครงการที่อยู่อาศัยในภูเก็ต ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน รวมถึงโครงการที่มีแผนสร้างเสร็จใหม่ในปีนี้ทั้งหมดล้วนเป็นคอนโด 8 ชั้น

ที่ผ่านมา ASW ห่วงใยและให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของทั้งผู้อยู่อาศัยและโครงการ จึงได้จัดส่งทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเข้าตรวจสอบทั้งโครงการที่มีผู้พักอาศัย และโครงการที่กำลังก่อสร้างอยู่ทุกโครงการอย่างเร่งด่วน โดยทุกโครงการของบริษัท ไม่มีโครงการไหนที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากบริษัทให้ความสำคัญกับการก่อสร้างโครงการให้มีความแข็งแรง ปลอดภัย 100 % ตามมาตรฐานวิศวกรรมในทุกโครงการ ขณะเดียวกัน ทุกโครงการยังได้ทำประกันภัยอาคารชุดไว้ ครอบคลุมการดูแลทั้งโครงการที่โอนกรรมสิทธิ์แล้ว และโครงการที่ยังอยู่ระหว่างก่อสร้าง และขอส่งกำลังใจถึงทุกท่านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์จะคลี่คลายโดยเร็ว และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้อย่างแข็งแกร่ง

ขณะที่สถานการณ์ตลาดหลังจากนี้ แม้มีปัจจัยภายนอกอื่นๆ ที่ต้องจับตาหลายเรื่อง อาทิ สงครามการค้าของสหรัฐอเมริกา สถานการณ์เศรษฐกิจจีน แต่ตลาดบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม Low-rise ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการผ่อนคลายเกณฑ์อัตราส่วนการให้สินเชื่อโดยเทียบกับมูลค่าหลักประกัน (Loan to Value: LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2568 ถึง 30 มิ.ย. 2569 ประกอบกับการลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและเพื่อลงทุนเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น เพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจซื้อ และช่วยเร่งการโอนกรรมสิทธิ์ได้ ซึ่งจะส่งผลบวกต่อทั้งภาพรวมตลาดฯ โดยปัจจุบัน บริษัทมีโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (Ready to Move) ทุกระดับราคา มูลค่ารวม 8,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ ASW ยังมีโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ เตรียมทยอยโอนกรรมสิทธิ์รับรู้รายได้ในไตรมาส 2/2568 เพิ่มอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการแอทโมซ พาลาซิโอ ลาดพร้าว-วังหิน มูลค่า 1,750 ล้านบาท และโครงการแอทโมซ แคนวาส ระยอง มูลค่า 1,250 ล้านบาท และยังเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ตามแผนงาน อาทิ แคมปัสคอนโดที่มีดีมานด์ชัดเจนจากนักศึกษา ผู้ปกครอง และนักลงทุน โครงการในภูเก็ตที่ยังคงได้รับความนิยมจากคนไทยและต่างชาติ เพื่อสร้างโมเมนตัมยอดขายอย่างต่อเนื่อง และขับเคลื่อนให้บริษัทเดินหน้าสู่เป้าหมายยอดขาย 19,500 ล้านบาทได้ตามที่ตั้งไว้