นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566  บริษัทมีรายได้รวม 1,300.87  ล้านบาท เฉพาะในไตรมาสที่ 3 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่  536.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.29 หรือ 41.09 ล้านบาท จาก 495.78 ล้านบาทในไตรมาส 3/2565 สาเหตุหลักมาจาก ยอดโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการแนวสูง จำนวน 349.86 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 67.33 ของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน จำนวน 46.81 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.45 เพิ่มขึ้นหลักๆ จากโครงการ ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค ลาดพร้าว – โชคชัย 4 เฟส 2 และโครงการแนวราบ จำนวน 6 โครงการ เป็นจำนวน152.77 ล้านบาท เป็นสัดส่วนร้อยละ 29.40 ของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนั้นยังมีโครงการบ้านมือสอง จำนวน 17 ล้านบาท และรายได้อื่น 17.25 ล้านบาท เป็นสัดส่วนร้อยละ 2.75 ของรายได้รวม

ปัจจัยของการเติบโตอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ ได้มีโปรโมชันออกมากระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความน่าสนใจและกระตุ้นการตัดสินใจ ตามกลุ่มเป้าหมายแต่ละโครงการ เช่น “อยากซื้อบ้านเจอแต่ปัญหา มาหาชีวาทัย” เพื่อแก้ปัญหาและช่วยเหลือผู้ที่อยากมีบ้าน แต่อาจมีปัญหาด้านการกู้สินเชื่อ ด้านข้อมูลอสังหา ซึ่งหลังจากที่เปิดตัวออกไปก็ได้รับกระแสตอบรับค่อนข้างดี มีลูกค้าให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นใหญ่ของชีวาทัย กับกิจกรรม ชีวาทัย เมกะ เซลล์ เพื่อคืนกำไรแก่ลูกค้าตลอดปี คาดว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

บริษัทฯ คาดหวังรายได้ 500 ล้านบาทในไตรมาสที่ 4 และมีลุ้นเพิ่มถึง 800 ล้านบาท จากโครงการใหม่ที่เปิดตัวและจะรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 4 เพิ่มเติม คือโครงการ “ชีวารมย์ ราชพฤกษ์ ตัดใหม่” โครงการบ้านเดี่ยวโครงการใหม่บนถนนราชพฤกษ์ ซึ่งต่อยอดจากการตอบรับที่ดีจากโครงการ “ชีวารมย์ นครอินทร์” ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯมีแผนที่จะเปิดเข้าขมโครงการครั้งแรกในวันที่ 25-26 พฤศจิกายน 2566 และสามารถรับรู้รายได้ได้ทันทีเนื่องจากเป็นบ้านพร้อมโอนกรรมสิทธิ์

บริษัทยังคงมีแผนการขยายโครงการทั้งแนวราบและแนวสูงอีก 1-2 โครงการในปีนี้ แม้ในไตรมาส 3/2566 นี้ต่ำกว่าเป้าที่คาดการณ์ไว้ แต่ยังคงเหลือไตรมาสสุดท้ายก่อนสิ้นปี ที่บริษัทฯ จะพัฒนาไปตามเป้า โดยมีโครงการใหม่ที่รอรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อีก 1 โครงการและโครงการอื่นๆที่มีการทยอยโอนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้การดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ และยังคงมุ่งเน้นในการทำการตลาดออนไลน์ในทุกแพลตฟอร์มเพื่อตอบสนองกับวิถีการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไปของยุคสมัย อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับมุมมองของผู้บริโภคในมิติต่างๆเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ในส่วนนโยบายการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้มีความคุ้มค่ายังเป็นนโยบายที่บริษัทให้ความสำคัญในอันดับต้นๆ

 “ชีวาทัย” เน้นย้ำนโยบายที่มุ่งเน้นการนำหลักการด้านความยั่งยืน (ESG) หรือสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และบรรษัทภิบาล (Governance) เพื่อนำมาปรับใช้ให้เข้ากับการบริหารจัดการของบริษัท ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) พร้อมกันนี้ ยังคงยึดมั่นด้านคุณภาพและบริการหลังการขาย จาก “ชีวาแคร์” ยึดมั่นเป้าหมายขึ้นที่ 1 ในใจลูกค้าด้านคุณภาพและบริการ สำหรับกลุ่มบริษัทอสังหาฯ ช่วงรายได้ไม่เกิน 5 พันล้านบาท พร้อมกันนี้ยังคงเดินหน้ารักษาคุณภาพสินค้าให้ลูกค้าตรวจ Zero Defect ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ลูกค้าที่มาซื้อโครงการกับชีวาทัย ได้สิ่งที่ดีและมีคุณภาพสูงสุด ตั้งแต่บริการก่อนการขายตลอดจนถึงบริการหลังการขาย ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดสู่ลูกค้าทุกคน” นายบุญ ชุน เกียรติ กล่าว