‘บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร หรือ DRT’ โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 ทำรายได้รวม 1,552.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.32% เติบโตมากกว่าเป้าหมาย สะท้อนความแข็งแกร่งแบรนด์ ‘ตราเพชร’ ที่ได้รับการยอมรับของผู้บริโภคด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่นำไปก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 177.35 ล้านบาท จากปัจจัยต้นทุนการผลิตเพิ่ม พร้อมเร่งบริหาร Product Mix ต่อเนื่อง เพื่อรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นให้อยู่ในเป้าหมาย 25-27%
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์และบอร์ดไฟเบอร์ซีเมนต์ บอร์ดตกแต่งผนัง อิฐมวลเบา ไม้บันได SPC-FC ร้านกาแฟสำเร็จรูป (DIAMOND Cafe) และบริการติดตั้งโครงหลังคาและกระเบื้องหลังคา ภายใต้เครื่องหมายการค้า ‘ตราเพชร’ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 (มกราคม–มีนาคม) บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนการเติบโตได้ดีกว่าเป้าหมาย โดยทำรายได้รวม 1,552.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีปัจจัยมาจากศักยภาพการดำเนินธุรกิจภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าและความโดดเด่นด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง รวมถึงเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งสามารถตอบสนองต่อความต้องการสินค้าวัสดุก่อสร้างที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างดี โดยช่องทางจำหน่ายผ่านกลุ่มลูกค้าโครงการผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เติบโตโดดเด่น ขณะที่ตลาดต่างประเทศกลับมาขยายตัวได้ดีเช่นกัน
ทั้งนี้ DRT สามารถรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรโดยเฉลี่ยไว้ที่ 90% ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำเพื่อลดแรงกดดันจากความเสี่ยงภาวะต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น จากวัตถุดิบหลักและราคาพลังงานได้ดีในระดับหนึ่ง เป็นผลให้กำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อย จากเป้าหมาย 25-27% โดยมีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ 177.35 ล้านบาท
“เราพอใจผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกปีนี้ที่ผลักดันการเติบโตของยอดขายได้สูงกว่าเป้าหมาย สะท้อนขีดความสามารถการแข่งขันของผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ ได้เป็นอย่างดี แต่ยังมีสิ่งที่เราต้องบริหารจัดการในเรื่องต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อเพิ่มอัตราการทำกำไรขั้นต้นให้อยู่ในเป้าหมาย ซึ่งเชื่อว่าเราจะทำได้ดีขึ้นกว่านี้แน่นอน” นายสาธิต กล่าว
ส่วนแผนดำเนินงานในไตรมาส 2 บริษัทฯ จะมุ่งบริหารความเสี่ยงด้านต้นทุนวัตถุดิบอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการบริหาร Product Mix และรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยให้สูงกว่า 90% เพื่อสนับสนุนการทำตลาดผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างภายใต้กลยุทธ์ ‘สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง’ รองรับความต้องการสินค้าวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นในทุกช่องทางการจัดจำหน่าย พร้อมลดแรงกดดันจากภาวะต้นทุนวัตถุดิบที่ยังคงทรงตัวในระดับสูง แม้จะเริ่มเห็นสัญญาณการปรับตัวลดลงของต้นทุนพลังงาน โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายทำอัตรากำไรขั้นต้นและผลักดันการเติบโตของยอดขายให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้