ท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว รวมทั้งความไม่แน่นอนทางการเมือง ที่ยังคงกดดันตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่ “ตลาดรับสร้างบ้าน” กลับยังสามารถยืนหยัดและเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยที่ทำให้ตลาดนี้ยังไปต่อได้ คือ “เรียลดีมานด์” ฐานลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้านเพื่ออยู่อาศัยจริง ไม่ใช่เพื่อการลงทุนหรือเก็งกำไร โดยเฉพาะในกลุ่มบ้านระดับราคา 3–10 ล้านบาท ซึ่งแม้จะเป็นตลาดที่ไม่หวือหวา แต่มีการตัดสินใจใช้บริการรับสร้างบ้านอย่างต่อเนื่อง

“ผู้บริโภคยุคนี้ไม่ได้มองแค่ราคาถูกสุด แต่เขาต้องการบ้านที่คุ้มค่า มีมาตรฐาน มีบริการหลังการขาย และเชื่อถือได้ว่าได้บ้านแน่นอน ซึ่งธุรกิจรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกสมาคมจะตอบโจทย์ทั้งหมดนี้ได้ดีกว่าใช้ผู้รับเหมาทั่วไป” นายอนันต์กร อมรวาที นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (HBA) กล่าว

>>>ครึ่งปีแรกตลาดยังติดลบ…ลุ้นไตรมาส 3 ไฮซีซั่น ดันตลาดทรงตัว

นายอนันต์กร ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านด้วยว่า ในครึ่งปีแรกตลาดยังติดลบ 5-6% แม้มีสัญญาณฟื้นตัวในไตรมาส 2 อย่างไรก็ตาม คาดว่าช่วงไตรมาส 3 ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของการตัดสินใจสร้างบ้าน จะเป็นแรงขับช่วยพยุงตลาดให้ทรงตัวได้ หากไม่เจอปัจจัยลบกดดันตลาดเพิ่ม

>>>ตลาด 3-5 ล้าน โตต่อเนื่อง…ตลาดบนชะลอตัดสินใจ หวั่นปัญหาเศรษฐกิจ-การเมือง

ขณะที่ปัจจัยที่ผู้บริโภคใช้ในการตัดสินใจสร้างบ้าน นอกจากราคาวัสดุและค่าแรงที่ยังทรงตัว คือความพร้อมของผู้ซื้อเอง นอกจากนั้น พฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการสร้างบ้านในแต่ละเซ็กเมนต์ต่างก็ให้ความสำคัญที่ต่างกันออกไป โดย

  • บ้านราคาต่ำว่า 3 ล้านบาท : ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับ “ความคุ้มค่า” เป็นหลัก
  • บ้านราคา 5–10 ล้านบาท: ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับ “คุณภาพการก่อสร้าง” เป็นหลัก
  • บ้านราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป : ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับ “ดีไซน์เฉพาะตัวที่สะท้อนรสนิยมของเจ้าของบ้าน” เป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม จากพฤติกรรมการใช้บริการรับสร้างบ้าน พบว่ากลุ่มที่ต้องการสร้างบ้านในราคา 20 ล้านบาทขึ้นไปมีการชะลอการตัดสินใจ เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการเมือง ขณะที่กลุ่มที่สร้างบ้านราคาต่ำกว่านั้นยังคงเป็นหัวใจของตลาด เดินหน้าตัดสินใจสร้างบ้านต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการสร้างบ้านราคา 3-5 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มหลักที่ใช้บริการขอสินเชื่อเมื่อต้องการปลูกสร้างบ้าน และธนาคารยังคงให้การสนับสนุนในการปล่อยสินเชื่อ โดยสินเชื่อที่ปล่อยให้ลูกค้าในกลุ่มนี้ยังคงมีคุณภาพดี กลายเป็นหนี้เสีย (NPL) ในระดับต่ำ

>>>เดินเกมดันมาตรฐาน ตอกย้ำความต่าง “รับเหมา” vs “รับสร้างบ้าน”

นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ให้ข้อมูลต่ออีกว่า ปัจจุบันสมาคมมีสมาชิกบริษัทรับสร้างบ้านเกือบ 80 บริษัททั่วประเทศ ซึ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลที่กลุ่มผู้บริโภคส่วนใหญ่มีความเข้าใจในธุรกิจรับสร้างบ้านอยู่แล้ว ปัจจุบันสมาชิกของสมาคมครองส่วนแบ่งตลาดรับสร้างบ้านเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 20% โดยการแข่งขันจะเน้นที่การออกแบบ คุณภาพ และบริการ มากกว่าราคา ขณะที่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ในช่วง 5-6 ปีหลัง สมาคมสามารถขยายฐานสมาชิกเพิ่มขึ้นมาก จาก 10% เป็นกว่า 35% โดยในส่วนของพื้นที่ต่างจังหวัด สมาคมยังคงเดินหน้าเร่งสร้างความเข้าใจกับผู้บริโภค เพื่อให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างบริการ “รับเหมาก่อสร้าง” กับ “ธุรกิจรับสร้างบ้าน” ซึ่งให้บริการครบวงจรตั้งแต่แบบบ้านจนถึงบริการหลังการขาย

“ต่างจังหวัดมีดีมานด์สร้างบ้านจริงจำนวนมาก โดยเฉพาะบ้านระดับ 3-5 ล้านบาท แต่กลุ่มผู้บริโภคบางส่วนยังเลือกใช้บริการจากผู้รับเหมา ซึ่งจริงๆ แล้ว หากเปรียบเทียบระหว่างผู้รับเหมากับธุรกิจรับสร้างบ้าน ราคาจะต่างกันไม่เกิน 10-15% ขณะที่สิ่งที่ลูกค้าจะได้จากธุรกิจรับสร้างบ้านคือมาตรฐาน การบริการ ความน่าเชื่อถือ และคุณภาพงานที่ดีกว่า สมาคมจึงต้องเร่งสร้างความเข้าใจให้กับผู้บริโภคในเรื่องนี้” นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าว

นอกจากการเสริมสร้างความเข้าใจให้กับผู้บริโภค กิจกรรมที่สมาคมทำควบคู่กันไปคือเร่งพัฒนาสมาชิกให้มีมาตรฐานงานก่อสร้างเดียวกันทั่วประเทศ ด้วยการจัดอบรม ถ่ายทอดกระบวนการบริหารงานตั้งแต่ตอกเสาเข็มจนถึงส่งมอบบ้าน พร้อมขยายการสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น TikTok, Facebook และ YouTube รวมทั้งร่วมมือกับสถาบันการเงิน ให้สิทธิพิเศษกับสมาชิกสมาคม เช่น การกู้สินเชื่อด้วยราคาที่ประเมินตรงตามจริง ไม่ต้องยื่นแบบก่อสร้างก่อนการยื่นกู้ และปล่อยเงินตามงวดของบริษัทรับสร้างบ้าน ไม่ใช่ตามขั้นของธนาคาร

>>>จัดอีเวนต์ใหญ่ช่วงไฮซีซั่นไตรมาส 3 ปลุกตลาดคึก

สำหรับในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งตรงกับช่วงไฮซีซั่นของตลาดรับสร้างบ้าน นายอนันต์กรให้ข้อมูลว่า สมาคมเตรียมจัดงานอีเวนต์ประจำปี “รับสร้างบ้านและวัสดุ Focus 2025” ที่อิมแพค เมืองทองธานี ในเดือนกันยายนนี้ เพื่อกระตุ้นตลาด โดยปีนี้มีบริษัทรับสร้างบ้านที่จะมาร่วมออกบูทกว่า 40 บริษัท และวัสดุก่อสร้างอีกกว่า 20 ราย รวมถึงสถาบันการเงินที่จะมาให้คำปรึกษาและเสนอโปรโมชันสินเชื่อแบบครบวงจร

“คนที่อยากมีบ้าน ถ้ามางานนี้จะสามารถเลือกบ้าน เลือกผู้รับสร้างบ้าน และได้โปรโมชันพิเศษครบจบในที่เดียว เราเชื่อว่ากิจกรรมแบบนี้จะสร้างความคึกคักให้กับตลาดได้แน่นอน” นายอนันต์กร กล่าว

>>>มั่นใจปีนี้ประคองรอดจุดต่ำสุด เชื่อปี 69 ตลาดรับสร้างบ้านฟื้นชัด

แม้ปี 2568 จะเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทาย แต่นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านเชื่อมั่นว่าธุรกิจรับสร้างบ้านจะผ่านพ้นไปได้ และเมื่อเศรษฐกิจและการเมืองเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ปี 2569 จะตลาดรับสร้างบ้านจะเริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจน เพราะดีมานด์ที่แท้จริงยังมีอยู่ เพียงแค่ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กลับมา

“ปีนี้ถ้าเราผ่านจุดต่ำสุดไปได้ ปีหน้าเราคาดว่าตลาดจะเริ่มฟื้นตัว เพราะดีมานด์มีอยู่แล้ว เพียงแค่ต้องสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคให้กลับมา ซึ่งสมาคมจะทำอย่างเต็มที่ ทั้งด้านคุณภาพ มาตรฐาน และบริการ” นายอนันต์กร กล่าวทิ้งท้าย