“ดิ ไอโคนิค พรอพเพอร์ตี้” เล็งเห็นศักยภาพทำเลเพรชเกษม สร้างเอกลักษณ์แบรนด์ SOL MIDTOWN Phetkasem 48 พรีเมียมทาวน์โฮมของคนรุ่นใหม่ วางกลยุทธ์ทำเลทอง เชื่อมต่อจากนอกเมืองสู่ Urban Community พร้อมผนึกความร่วมมือ LPP ดูแล Sole Agent ด้วยบริการครบวงจร

นายพริษฐ์  ทีฆคีรีกุล  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิ ไอโคนิค พรอพเพอร์ตี้  จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากว่า 10 ปี โดยมีโรงแรมระดับ 4 ดาว 9 แห่ง ในกรุงเทพฯ ย่านบางซื่อ ดอนเมือง สุวรรณภูมิ รวมทั้งพัทยา และภูเก็ต นอกจากนั้นยังมีธุรกิจบริการด้านสุขภาพ รวมถึงธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อยู่อาศัยในย่านเพชรเกษมและจรัญสนิทวงศ์อีก 5 โครงการ โดยล่าสุดได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของทำเลเพชรเกษม จึงตัดสินใจพัฒนาโครงการ “โซล มิดทาวน์ เพชรเกษม-สาทร” พรีเมียมทาวน์โฮมและบ้านแฝด 3-4 ชั้น จำนวน 49 ยูนิต มูลค่าโครงการ 629 ล้านบาท

“การทำธุรกิจของเราจะให้ความสำคัญกับทำเล โดยจะเลือกพัฒนาโครงการในทำเลที่มีศักยภาพการเติบโตสูง และพัฒนาโพรดักส์ที่เป็นที่ต้องการของลูกค้า ซึ่งทำเลเพชรเกษมนับเป็นหนึ่งทำเลศักยภาพ จากการที่มีรถไฟฟ้าเปิดให้บริการ รวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ในการอยู่อาศัยครบครัน ทั้งโรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า และตลาด ขณะที่ราคาที่ดินในย่านราชพฤกษ์-เพชรเกษม พุ่งสูงขึ้นมากหลังวิกฤตโควิด โดยในปี 2563 ราคาประเมินที่ดินในย่านนี้อยู่ที่ 100,000-175,000 บาท/ตร.ว. ขณะที่ในปี 2566 ราคาประเมินที่ดินในย่านนี้อยู่ที่ 120,000-200,000 บาท/ตร.ว. ซึ่งการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินส่งผลให้ราคาบ้านเดี่ยวในย่านนี้พุ่งสูงขึ้นสูงกว่า 25 ล้านบาท ขณะที่โครงการที่พัฒนาใหม่ส่วนใหญ่มักเป็นโครงการคอนโดมิเนียม เราจึงมองเห็นช่องว่างการตลาด และได้พัฒนาโครงการ “โซล มิดทาวน์ เพชรเกษม-สาทร” พรีเมียมทาวน์โฮมและบ้านแฝด 3-4 ชั้น สำหรับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบ ซึ่งมีพื้นที่มากกว่าคอนโดมิเนียม ขณะที่ราคาต่ำกว่าบ้านเดี่ยว ในราคาเริ่มต้น 12.5 ล้านบาท” นายพริษฐ์ กล่าว

ทั้งนี้ นายพริษฐ์ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ “โซล มิดทาวน์ เพชรเกษม-สาทร” ว่ามีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้ง โดยตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม 48 ซึ่งเพชรเกษมกำลังจะเป็นคอมมูนิตี้ใหม่ของคนเมือง โดยฝั่งหนึ่งเป็นสาทร  อีกฝั่งคือโซนของโครงการบ้านจำนวนมาก (Residential Area) อย่างราชพฤกษ์ ขณะที่เพชรเกษมยังเป็นทำเลที่เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ไปคอมมูนิตี้โดยรอบได้ดี  ทั้งตั้งอยู่ใกล้กับสถานี  BTS และ MRT เพชรเกษม 48, ห้างสรรพสินค้าซีคอน บางแค, ศูนย์การค้า The Circle ราชพฤกษ์, โรงพยาบาลพญาไท 3, โรงเรียน SISB ฯลฯ นอกจากนี้ จากที่ตั้งโครงการยังสามารถเดินทางเชื่อมต่อด้วยเวลาเพียง 2 นาที ถึงสถานีรถไฟ BTS และ MRT เพชรเกษม 48 และเชื่อมต่อระหว่างถนนเพชรเกษม ถนนกาญจนาภิเษก  และถนนราชพฤกษ์  เดินทางเข้า – ออกเมืองไป  สีลม – สาทรได้ง่าย ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที

ด้านดีไซน์ “โซล มิดทาวน์ เพชรเกษม-สาทร” ได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ REAL RADIANT URBAN LIVING” เพื่อสะท้อน “สไตล์ที่เหนือกว่า ในมุมมองที่แตกต่าง” โดยเป็นโครงการที่อยู่อาศัยแบบ Modern Townhome และ Twin Home ระดับ Luxury ทั้ง 3 และ 4 ชั้น ขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ บนที่ดิน 27.44 – 44 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 222 – 275 ตารางเมตร และพื้นที่หน้าบ้านกว้างถึง 10 เมตร สามารถรองรับการจอดรถสูงสุด 4 คัน ขณะที่อีกไฮไลต์ของโครงการก็คือ ไลฟ์สไตล์ คอมมูนิตี้ (Lifestyle Community) โดยการตอกย้ำและสร้างแบรนด์กับกลุ่มกำลังซื้อคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน และเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองที่มีความต้องการบ้านแนวคิดใหม่ พร้อมทั้งมีพื้นที่สำหรับเป็นบ้านพักอาศัย แต่ก็สามารถปรับฟังก์ชันให้เป็นพื้นที่ทำงาน และพบปะสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนได้ด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการเชื่อมต่อของ Work Life Family ที่ลงตัว นอกจากนี้ “โซล มิดทาวน์ เพชรเกษม-สาทร” ยังตอกย้ำความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าโดยได้ “บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด” หรือ LPP รับหน้าที่เป็น Sole Agent ผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้

“บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่าจะสร้างการเติบโตในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยของภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปี 2567 มีแนวโน้มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น และมีสัญญาณฟื้นตัวของกำลังซื้อที่เป็นเรียลดีมานด์ ตลอดจนทำเลเพชรเกษม-สาทร และระดับราคาของโซลมิดทาวน์ที่เปิดตัวไปแล้ว ทำให้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งจากกลุ่มอยู่เอง และกลุ่มนักธุรกิจ นักลงทุน” นายพริษฐ์ กล่าว

ด้านนางสาวสมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่า “โซล มิดทาวน์ เพชรเกษม-สาทร” ถือเป็นโครงการแรกที่ LPP ได้เข้ามาประเดิมงาน Sole Agent อย่างเต็มรูปแบบ หลังจากที่ได้สั่งสมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการงานขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์มายาวนานกว่า 30 ปี  โดยก่อนที่จะตัดสินใจรับหน้าที่ในการเป็น Sole Agent ให้กับโครงการ “โซล มิดทาวน์ เพชรเกษม-สาทร” LPP ได้วิเคราะห์และศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ และความต้องการของตลาดที่อยู่อาศัย ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันที่ค่อนข้างชะลอตัวและส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ต้องเผชิญกับหลายๆ ปัจจัย ทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือน การเข้มงวดของสถาบันการเงินในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และภาระหนี้เสียต่างๆ  การพัฒนาโครงการตลาดบ้านหรูในระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป จึงเป็นอีกทางเลือกที่สามารถตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อในปัจจุบัน โดยจุดเด่นของโครงการ “โซล มิดทาวน์ เพชรเกษม-สาทร” คือเป็นโครงการที่มีศักยภาพสูงทั้งด้านทำเลที่ตั้งโครงการที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกสบาย ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวก  มีการออกแบบที่ตอบโจทย์การใช้งานและยังสามารถปรับเปลี่ยนฟังชันได้ตามความต้องการ  ซึ่งตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยเองหรือลงทุน 

“การรับหน้าที่ดูแลงาน Sole Agent ให้โครงการ “โซล มิดทาวน์ เพชรเกษม-สาทร” ในครั้งนี้ LPP ได้วางกลยุทธ์เพื่อดูแลบริหารงานขายและการตลาดอย่างครบวงจร  พร้อมเป็นที่ปรึกษาและในการพัฒนาโครงการให้ตรงตามความต้องการทั้งเจ้าของโครงการและกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการดูแลจากทีมงานขายมืออาชีพที่มีประสบการณ์  ในด้านการตลาดได้วางกลยุทธ์การใช้สื่อโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งกิจกรรมทางการตลาด Online และ Offline ผ่านสื่อต่างๆ พร้อมกิจกรรมเพื่อกระตุ้นยอดขายเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และด้วยศักยภาพโครงการตามที่กล่าวมาจึงเชื่อว่าโครงการ “โซล มิดทาวน์ เพชรเกษม-สาทร” จะประสบความสำเร็จ” นางสาวสมศรี กล่าว