คุณพสิษฐ์ มั่นคงขันติวงศ์ (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการ วัตสัน ประเทศไทย และ คุณนวลพรรณ ชัยนาม (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ วัตสัน ประเทศไทย

 

กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 7 พฤษภาคม 2567 – วัตสัน ผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทย เผยทิศทางธุรกิจ ประจำปี 2567 เน้นขยายการเติบโต รวมถึงการนำความยั่งยืนมาใช้ผสานในการพัฒนาส่วนต่างๆ ของธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปีนี้ วัตสัน ในฐานะผู้นำตลาด ยังคงมุ่งหน้าชูกลยุทธ์การชอปปิ้งออฟไลน์และออนไลน์ (O+O) เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของลูกค้า รวมถึงการต่อยอดให้กับสินค้าภายใต้แบรนด์วัตสัน โดยทั้งหมดนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของวัตสันในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

 

วัตสัน ประเทศไทย เน้นการขยายการเติบโต ควบคู่ไปกับการส่งเสริมด้านความยั่งยืน และในฐานะร้านเพื่อสุขภาพและความงามแห่งแรกที่มีสาขาครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย วัตสันยังคงเดินหน้าขยายตามแผนงาน เพื่อสร้างการเข้าถึงที่ง่าย และสะดวกสบายให้กับลูกค้า ตอบรับความต้องการของลูกค้าทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่รวม 50 สาขา รวมถึงพัฒนาหน้าร้านที่มีอยู่อีกด้วย

 

เพื่อสอดรับกับเป้าหมายความยั่งยืน วัตสัน ประเทศไทย ส่งเสริม Greener Store ซึ่งเป็นรูปแบบร้านค้าเพื่อความยั่งยืนของวัตสัน ที่ได้ทดลองเริ่มปฏิบัติการจริงไปแล้วที่สาขาสยามสแควร์ โดยการนำเสนอแนวคิดและมาตรการต่างๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาปรับใช้ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ อาทิ การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา และการเลือกใช้วัสดุตกแต่งที่ผลิตจากกระดาษและไม้รีไซเคิล โดย คุณพสิษฐ์ มั่นคงขันติวงศ์ กรรมการผู้จัดการ วัตสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “แนวคิด Greener Store ถือเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นของวัตสันในการสร้างวัฒนธรรมที่บ่มเพาะความยั่งยืนในกระบวนการดำเนินงาน และปฏิบัติการต่างๆ ในทุกๆ วัน” ซึ่งแนวคิดดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญต่างๆ เช่น การเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การลดใช้พลังงาน รวมถึงเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียน และการมีส่วนร่วมของลูกค้า

 

นอกจากนี้ วัตสัน ประเทศไทย ได้นำรถบรรทุกและรถปิคอัพไฟฟ้า มาใช้สำหรับการจัดส่งสินค้า ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ อีกทั้ง วัตสัน ยังมุ่งมั่นในการเพิ่มสัดส่วนการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกและตอบรับความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้า ที่หันมาสนใจด้านสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น

 

กลยุทธ์ O+O ของวัตสันถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในการมอบประสบการณ์การชอปปิ้งแบบไร้รอยต่อ โดยเฉพาะในปัจจุบัน วัตสัน มีสมาชิกวัตสันคลับ มากกว่า 9 ล้านคนที่ได้รับสิทธิพิเศษผ่าน “โปรโมเชื่อม” โปรโมชั่นที่ออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อการชอปปิ้งออนไลน์และออฟไลน์สำหรับสมาชิกวัตสัน คลับ โดยเฉพาะ ควบคู่ไปกับการใช้ความเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าจากฐานสมาชิกที่แข็งแกร่ง มาใช้เป็นเครื่องมือในการยกระดับการสร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับสมาชิก กระตุ้นการมีส่วนร่วม และมัดใจสมาชิก ด้วยกิจกรรมสุดพิเศษต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับเซเลปชื่อดัง กิจกรรมเวิร์กช็อป รวมถึงสิทธิพิเศษในการแลกบัตรกำนัลด้านไลฟ์สไตล์ต่างๆ

เพื่อตอบรับกับเทรนด์ในยุคปัจจุบันที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น ในปี 2567 วัตสัน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านสุขภาพ ด้วยการเปิดตัววัตสัน เดย์ไวต้า (Day-Vita) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้แบรนด์วัตสัน โดยการเปิดตัวในครั้งนี้ เป็นการใช้ความเชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่มีมาอย่างยาวนานของวัตสัน ประกอบกับความเข้าใจในผู้บริโภค ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการมีสุขภาพที่ดีได้ง่าย สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ในราคาที่เหมาะสม

 

คุณพสิษฐ์ กล่าวเสริมอีกว่า “นอกเหนือจากความสำเร็จทางธุรกิจ วัตสันยังตอกย้ำความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืนของชุมชน ซึ่งนับเป็นหัวใจสำคัญเพื่อมุ่งสู่อนาคตที่สดใส ด้วยโครงการริเริ่มต่างๆ เช่น แคมเปญ Give a Smile กับ Operation Smile สนับสนุนเป้าหมายของเอเอส วัตสัน กรุ๊ป ในการฟื้นฟูรอยยิ้ม 10,000 รอยยิ้มภายในปี พ.ศ. 2573 ซึ่งก้าวต่อๆ ไปของเรา ก็จะยังคงมุ่งมั่นในการส่งต่อประสบการณ์การชอปปิ้งที่ดีที่สุด และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน รวมถึงสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าของเราจะได้รับความสุขและยิ้มได้ในทุกๆ วัน”