ศุภาลัยเชื่อปี 67 ตลาดอสังหาฯ แนวโน้มสดใสขึ้น ประกาศโรดแมพทุบสถิติหลากมิติ ทั้งจำนวนโครงการ มูลค่ารวมสูงสุด เป้ายอดขาย และเป้ารายได้
ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ในปี 2566 เศรษฐกิจไทยจะไม่ได้เติบโตเท่ากับที่มีการคาดการณ์กันไว้ แต่สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2567 มีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้น จากอัตราดอกเบี้ยขาลง อัตราเงินเฟ้อเริ่มอยู่ตัว การท่องเที่ยวและการส่งออกเริ่มดีขึ้น การลงทุนเริ่มมากขึ้น
สำหรับในส่วนของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปี 2567 อาจจะเป็นอีกปีที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แข่งขันกันเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มมากขึ้น แม้ภาพรวมตลาดยังคงเผชิญกับปัจจัยท้าทายต่างๆ แต่ก็มั่นใจว่าปีนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์น่าจะขับเคลื่อนไปต่อได้ เป็นผลมาจากการปรับตัวของผู้ประกอบการ และความต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบยังขยายตัวได้ดีโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าระดับกลาง – บน ขณะที่สินค้าในกลุ่มคอนโดมิเนียมเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวกลับมาในทำเลที่มีศักยภาพ
ส่วนภาพรวมของบริษัทฯ ปี 2567 เป็นปีแห่งการขยายศักยภาพในมิติต่างๆ ขับเคลื่อนการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ มากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีแผนเปิดตัวโครงการมากที่สุดและมีมูลค่ารวมสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา โดยจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่มากถึง 42 โครงการ มูลค่ารวม 50,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 38 โครงการ มูลค่ารวม 43,500 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่ารวม 6,500 ล้านบาท พร้อมลุยเปิดตลาดอสังหาฯ เพิ่มใน 3 จังหวัดใหม่ ได้แก่ ลำปาง ราชบุรี และลพบุรี ซึ่งจะทำให้ศุภาลัยขยายศักยภาพพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยครอบคลุมถึง 29 จังหวัด นอกจากนั้นยังประกาศทุบสถิติยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์ โดยตั้งเป้ายอดขายเอาไว้ที่ 36,000 ล้านบาท และเป้าหมายรายได้รวม 36,000 ล้านบาท และงบประมาณการจัดซื้อที่ดิน 8,000 ล้านบาท
สำหรับในต่างประเทศ บริษัทฯ ยังเดินหน้าลงทุนต่อเนื่องในประเทศออสเตรเลีย โดยจับมือกับบริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แถวหน้า Stockland Communities Partnership HoldCo Pty Ltd ตั้งกิจการร่วมค้าในชื่อ “SSRCP HoldCo Pty Ltd” พร้อมอัดเม็ดเงินเพิ่ม 12,600 ล้านบาท พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่ม 12 โครงการ มูลค่าโครงการ 137,700 ล้านบาท ใน 4 รัฐ 5 เมืองสำคัญ ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ ได้มีการพัฒนาโครงการในออสเตรเลียแล้วรวม 24 โครงการ มูลค่าโครงการ 187,700 ล้านบาท คิดเป็นเงินทุนรวมศุภาลัย 22,300 ล้านบาท โดยโครงการที่ซื้อใหม่จะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ เพราะเป็นโครงการที่ได้เริ่มพัฒนาไปส่วนหนึ่งแล้ว
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2566 เป็นปีที่มีความท้าทายในการดำเนินธุรกิจภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน แต่บริษัทฯ ก็สามารถเดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง ด้วยยอดขายเพิ่มในประเทศไทยรวม 28,864 ล้านบาท โดยมีการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมรวม 26 โครงการ มูลค่ารวม 29,640 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการแนวราบ 23 โครงการ และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ
ทั้งนี้ สำหรับในปี 2567 บริษัทฯ เตรียมลุยตลาดอสังหาฯ เต็มกำลัง ด้วยการเปิดตัวโครงการแนวราบมากที่สุด ทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค โดยในไตรมาสแรกจะมีการเปิดตัวมากถึง 14 โครงการ มูลค่ารวม 14,990 ล้านบาท และยังเดินเกมรุกเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดบ้านเดี่ยวลักซ์ชัวรี เจาะลูกค้าระดับบน พัฒนาโครงการบ้านระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนยอดขายมากขึ้น 56% จากปีที่ผ่านมา และมีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ๆ อีกทั้งมุ่งพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย สร้างสรรค์แบบบ้านซีรีส์ใหม่ที่มาพร้อมนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนเพิ่มมากขึ้น บุกขยายเจาะทำเลศักยภาพสูงตอบโจทย์การอยู่อาศัย อาทิ อรุณอมรินทร์ กรุงเทพกรีฑา อุทยาน – อักษะ พุทธมณฑล และการกลับมาเปิดฉากรุกตลาดคอนโดมิเนียม จัดเต็มด้วยฟังก์ชันและดีไซน์เฉพาะตัว ในราคาที่คุ้มค่า อีกทั้งร่วมกับพันธมิตรจัดแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าศุภาลัย อาทิ แคมเปญลูกบ้านศุภาลัยจ่ายดอกเบี้ยปีแรก 0% พร้อมขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการจัดการพลังงานอย่างยั่งยืน รุกหน้าสู่เป้าหมายระยะกลางด้านสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40% ภายในปี 2573 จาก BAU (Business As Usual)
นายไตรเตชะ กล่าวอีกว่าในปีนี้บริษัทจะลุยเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าการเปิดตัวโครงการในช่วงครึ่งปีหลัง และต่างจากทุกปีที่ผ่านมาที่มักจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังมากกว่า เนื่องจากเชื่อว่าหากมีเม็ดเงินจากนโยบายของภาครัฐออกมาก็จะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจดีขึ้น และปัญหาการขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านไม่ผ่านซึ่งเป็นปัญหาหลักของปีที่แล้วอันเป็นผลพวงต่อเนื่องมาจากวิกฤตโควิด-19 เมื่อ 3 ปีที่แล้วก็น่าจะเริ่มคลี่คลายลง นอกจากนั้นในปีนี้บริษัทยังมีการโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดมิเนียมอีก 5 โครงการ ได้แก่ ซิตี้โฮม สนามบินน้ำ-รัตนาธิเบศร์, ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ, ศุภาลัย ไอคอน สาทร, ศุภาลัย พรีเมียร์ สามเสน – ราชวัตร และศุภาลัย ซิตี้โฮม ระยอง ซึ่งมียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ถึง 4,800 ล้านบาท คิดเป็น 13% ของเป้ารายได้ 36,000 ล้านบาท และยังจะมีการโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวราบที่บริษัทมีการบุกตลาดกลุ่มสินค้านี้มากขึ้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดด้วย จึงคาดว่าปี 2567 จะเป็นอีกปีที่บริษัทฯ มีการเติบโตทางยอดขาย รายได้ และกำไร