บมจ.ศุภาลัย ชี้เห็นสัญญาณบวกตลาดคอนโด ฝ่าสถานการณ์ท้าทายไตรมาส 4 ลุยเปิด 4 โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ ปักหมุด 4 ทำเล เจริญนคร, สาทร-ราชพฤกษ์, ภูเก็ต และหัวหิน มูลค่าโครงการรวม 5,800 ล้าน ตอบรับดีมานด์ทั้งอยู่อาศัยเองและเพื่อการลงทุน วางหมากทำเลดี ราคาสมเหตุสมผล หวังโกยยอดขายช่วงปลายปี
ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารในครึ่งปีแรก ทำให้ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวตามไปด้วย แต่ในปัจจุบันเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดที่ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดมิเนียมที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน บริษัทฯ พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า ซึ่งศุภาลัยมีโครงการคอนโดมิเนียมที่พร้อมตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัยใน 9 จังหวัดทั่วประเทศ
โดยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 นี้ ศุภาลัยปักธงลงเสาเข็ม 4 โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ บน 4 ไพร์มโลเคชันที่มีศักยภาพสูงทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ ทั้ง จ.ภูเก็ต และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่าโครงการรวม 5,800 ล้านบาท
ทั้ง 4 โครงการใหม่เหล่านี้ไม่ได้เพียงตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยแบบเรียลดีมานด์เท่านั้น แต่ยังรองรับแนวโน้มการลงทุนของผู้ซื้อที่มองหาคอนโดมิเนียมเพื่อการปล่อยเช่าให้เป็นรายได้เสริม ซึ่งเป็นแนวทางการลงทุนที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน นอกจากนี้ ศุภาลัยยังมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการที่มีความยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีการออกแบบพื้นที่ใช้สอยในลักษณะ Multifunctional Space อีกทั้งโครงการใน จ.ภูเก็ต ยังคำนึงถึงความต้องการของกลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยง เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและสะดวกสบาย และด้วยชื่อเสียงและความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ศุภาลัย ที่บริษัทฯ มีนวัตกรรมพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 35 ปี จึงมั่นใจว่าคอนโดมิเนียมใหม่ทั้ง 4 โครงการนี้จะเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้บริโภคในทุกมิติ
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมใน 9 จังหวัดทั่วประเทศไทย จำนวน 90 โครงการ 65,616 ยูนิต โดยในปี 2566 ยอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดมิเนียมมาจากโครงการในพื้นที่กรุงเทพฯ 74% และโครงการในต่างจังหวัด 26%
นายไตรเตชะ กล่าวต่อไปถึงภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมอีกว่า ภาพรวมสถานการณ์คอนโดมิเนียมในปี 2568 มีแนวโน้มจะกลับมาดีขึ้น เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคยังคงมีอยู่ แต่ปัจจุบันผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังคงชะลอการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ ทำให้ซัพพลายในตลาดคอนโดฯ กรุงเทพฯ อยู่ในภาวะขาดแคลน โดยจำนวนยูนิตของคอนโดฯ เปิดใหม่ในช่วงครึ่งปีแรก 2567 มีจำนวนน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของการเปิดตัวคอนโดฯ ใหม่ในช่วงครึ่งปีแรก 2566 ขณะที่ยอดขายกลับตกลงไม่มาก โดยยอดขายช่วงครึ่งปีแรก 2567 อยู่ที่ราว 60% ของยอดขายครึ่งปีแรก 2566 นอกจากนั้น และสำหรับศุภาลัย ยังพบว่ามียอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่มากที่สุดนับแต่ก่อตั้งบริษัทมา
จากสถานการณ์ดังกล่าว ในไตรมาส 4 ปี 2567 ศุภาลัยจึงเดินหน้าเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม 4 โครงการใหม่ เพื่อโกยยอดขายในช่วงปลายปี ด้วยกลยุทธ์ทำเลดี ราคาสมเหตุสมผล และลูกค้าเข้าถึงได้ ได้แก่
- Supalai Blu สาทร-ราชพฤกษ์ คอนโดมิเนียม สูง 32 ชั้น พื้นที่โครงการ 4-2-33.2 ไร่ จำนวนห้องชุดพักอาศัย 767 ยูนิต ห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ 4 ยูนิต แบบ 1-3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 29-122.5 ตร.ม. ทำเลติด ถ.ราชพฤกษ์ ใกล้รถไฟฟ้า BTS และ MRT สถานีบางหว้า ราคา 1.89-11.09 ล้านบาท หรือเริ่มต้น 64,000 บาท/ตร.ม. พรีเซล 26-27 ตุลาคม 2567
- Supalai Tyme เจริญนคร คอนโดมิเนียม สูง 28 ชั้น พื้นที่โครงการ 3-1-61.2 ไร่ จำนวนห้องชุดพักอาศัย 459 ยูนิต ห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ 2 ยูนิต แบบ 1-3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 35-118 ตร.ม.และ Duplex Living 2-3 ห้องนอน 5-163.5 ตร.ม. ทำเลใกล้ CBD ติด ถ.เจริญนคร สะดวกต่อการเชื่อมต่อสู่ ถ.สาทร และพระราม 3 ราคา 2.59-18.32 ล้านบาท หรือเริ่มต้น 70,500 บาท/ตร.ม. พรีเซล 9-10 พฤศจิกายน 2567
- Supalai Sense เขารัง ภูเก็ต คอนโดมิเนียม 2 อาคาร สูง 8 ชั้น และ 9 ชั้น พื้นที่โครงการ 3-2-51.4 ไร่ จำนวนห้องชุดพักอาศัย 221 ยูนิต แบบ 1-2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 35-73 ตร.ม. เป็นคอนโดฯ เลี้ยงสัตว์ได้แห่งแรกของศุภาลัยทำเล ถ.คอซิมบี้ ใกล้ภูเก็ตโอลด์ทาวน์ ราคา 69-6.62 ล้านบาท หรือเริ่มต้น 73,500 บาท/ตร.ม. พรีเซล 26-27 ตุลาคม 2567
- Supalai Kram เขาเต่า คอนโดมิเนียม สูง 5 ชั้น จำนวน 4 อาคาร พื้นที่โครงการ 3-0-10.14 ไร่ จำนวนห้องชุดพักอาศัย 84 ยูนิต แบบ 1-2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 53-5 ตร.ม. ทำเลใกล้อ่างเก็บน้ำเขาเต่าและชายหาดเขาเต่า ราคา 3.59 -8.5 ล้านบาท หรือเริ่มต้น 60,500 บาท/ตร.ม. พรีเซล 2-3 พฤศจิกายน 2567
นายไตรเตชะ ยังกล่าวต่อไปอีกว่า คอนโดมิเนียมเป็นสินค้าที่มีซัพพลายเป็นตัวนำ การที่ยอดขายในตลาดหดตัวลง ก็เพราะการหดตัวของจำนวนการเปิดตัวโครงการใหม่ ทั้งนี้ ก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 จะมีโครงการที่ผ่านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ในกรุงเทพฯ เดือนละ 15 โครงการ แต่ปัจจุบันเหลือเพียงเดือนละ 5 โครงการ ลดลงถึง 1 ใน 3 ซึ่งหากมองไปข้างหน้า โอกาสที่จะเกิดซัพพลายใหม่ก็จะมีน้อยลง ขณะที่ยังมีความต้องการซื้อคอนโดอยู่ ดังนั้นการเปิดคอนโดโครงการใหม่ก็น่าจะเป็นโอกาสที่บริษัทจะทำยอดขายได้ดี ทั้งนี้ ในปี 2568 บริษัทก็จะรุกตลาดคอนโดอย่างชัดเจน โดยจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่มากกว่าปี 2567 ที่มีการเปิดตัว 4 โครงการ ในมูลค่ารวมมากกว่า 10,000 ล้านบาท