เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย กางผลประกอบการปีงบการเงิน 67 (ต.ค. 66-ก.ย. 67) รับรู้รายได้ 14,566 ล้านบาท กำไร 1,467 ล้านบาท ธุรกิจที่อยู่อาศัยโดนมรสุมรอบด้านฉุดรายได้ลด ส่วนธุรกิจสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) เติบโตสดใส โรงงานและคลังสินค้าให้เช่าในไทย-อินโดนีเซีย-เวียดนามดีมานด์ทะลัก ดันอัตราการเช่ารวมของพอร์ตฯ ทำสถิติใหม่อยู่ที่ 87% ด้านออฟฟิศและพื้นที่รีเทลยังแข็งแกร่งด้วยอัตราการเช่า 92% เตรียมจ่ายปันผล 0.31 บาทต่อหุ้นวันที่ 11 ก.พ. 68
นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country Chief Executive Officer) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT กล่าวว่า บริษัทสามารถรักษาระดับการเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพจากการเป็นแพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรที่มีทั้งอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย อุตสาหกรรม และพาณิชยกรรม ซึ่งช่วยสร้างความยืดหยุ่นทั้งด้านรายได้และกำไรของพอร์ตโฟลิโอถึงแม้ธุรกิจจะเผชิญกับแรงกดดันทางเศรษฐกิจหลายด้าน นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมยังได้รับอานิสงส์จากกลยุทธ์ China Plus One ทำให้อัตราการเช่ารวมของพอร์ตโฟลิโอทำสถิติใหม่สูงสุด อย่างไรก็ดี FPT มีธุรกิจและสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรระดับ A แนวโน้มคงที่ (Stable) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 จากทริสเรทติ้ง พร้อมทั้งเดินหน้าตามแผนงานในการสร้าง Real Estate as a Service Brand ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตมั่นคง
สำหรับรายได้ปีงบการเงิน 2567 ของ FPT อยู่ที่ 14,566 ล้านบาท เป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 9,174 ล้านบาท รายได้จากค่าเช่าและบริการ 3,131 ล้านบาท และรายได้อื่น ๆ 2,261 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,467 ล้านบาท
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย เปิด 6 โครงการใหม่ทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม รวมมูลค่า 9,442 ล้านบาท โดยได้ขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดคอนโดมิเนียมด้วยการเปิดตัวโครงการโคลส รัชดา 7 ทั้งนี้ สินค้าบ้านเดี่ยวระดับราคา 10-20 ล้านบาทได้รับการตอบรับดี ขณะที่สินค้าระดับราคาต่ำกว่า 7 ล้านบาทได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยและภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ซึ่งในปีงบการเงิน 2567 FPT มีโครงการที่ดำเนินการ 83 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 115,827 ล้านบาท โดยบริษัทจะเดินหน้าต่อเนื่องในการสร้างการรับรู้สินค้าภายใต้แบรนด์เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ด้วยเป้าหมายเป็น Top of Mind ของผู้บริโภค
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม ได้ส่งมอบอาคารในประเทศไทย และเวียดนามรวมกว่า 135,000 ตร.ม. ผลักดันพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 3.6 ล้านตร.ม. โดยธุรกิจในไทยและเวียดนามได้รับอานิสงส์จากการขยายและย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีน ขณะที่ธุรกิจในอินโดนีเซียได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการบริโภคภายในประเทศ ทำให้ความต้องการพื้นที่เช่าโรงงานและคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้อัตราการเช่ารวมของพอร์ตโฟลิโอทำสถิติใหม่พุ่ง
สูงถึง 87% นอกจากนี้ FPT ยังได้เปิดให้บริการสินค้าใหม่ซึ่งเป็นอาคารอุตสาหกรรมแบบสร้างตามฟังก์ชันพร้อมใช้ (Built-to-Function) โดยได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรม อาคารสำนักงานเกรดเอและพื้นที่รีเทลสามารถรักษาระดับอัตราการเช่าได้สูงถึง 92% ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์และสีลมเอจมีทราฟฟิคคึกคักจากการจัดกิจกรรมการตลาดตลอดทั้งปี โดยโครงการมิกซ์ยูสสีลมเอจเพิ่งคว้ารางวัลชนะเลิศ Best Urban Lifestyle Development Bangkok 2024 จาก Dot Property Thailand Awards 2024 ตอกย้ำถึงการเป็นโครงการที่ทันสมัยและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ส่วนธุรกิจโรงแรมได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการวีซ่าฟรีและขยายเวลาพำนักให้กับนักท่องเที่ยว ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ FPT เตรียมจ่ายเงินปันผล 0.31 บาทต่อหุ้น พร้อมขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568